24 กรกฎาคม 2568 Sam Altman, CEO, OpenAI เป็น Speaker พูดในงานของ Federal Reserve ด้านการธนาคาร เขาได้ออกมาย้ำเตือนว่า “คนพึ่งพา ChatGPT มากไป มีวัยรุ่นหลายคนพูดประมาณว่า ‘ฉันตัดสินใจอะไรในชีวิตไม่ได้เลยถ้าไม่เล่าให้ ChatGPT ฟังทุกอย่าง มันรู้จักฉัน รู้จักเพื่อนฉัน ฉันจะทำตามที่มันบอกทุกอย่าง”

ทำให้ Sam Altman คิดว่า นี่คือ ภาพสะท้อนการใช้งาน AI ที่ผู้ใช้ยังไม่รู้และการเติบโตที่เร็วมาก ๆ ของมัน รวมถึงคนที่เป็นผู้นำวงการก็ยังไม่แน่ใจว่ามันอาจส่งผลเสียยังไง

หลังจากเหตุการณ์ ChatGPT Outage (ระบบล่มหรือติดขัดหนัก) ครั้งใหญ่ เขาเขียนไว้ว่า AI ช่วยให้คนจำนวนมากใช้ชีวิตได้จริง ๆ และแม้จะดูเป็นแบบนั้น ก็มีอีกไม่น้อยที่ใช้เทคโนโลยีนี้หนักจนแทบใช้ชีวิตไม่ได้ ถ้าไม่มีมัน

ตัวอย่างเช่น

  • 4 มิ.ย. 2024 ก็เคยมีเหตุชะงักต่อเนื่องหลายชั่วโมงเช่นกัน ชี้ให้เห็นว่าบริการออนไลน์ขนาดใหญ่ยังมีโอกาสสะดุดได้เสมอครับ
  • 10 มิ.ย. 2025 มีเหตุล่มวงกว้าง ผู้ใช้ทั่วโลกเจอทั้งเข้าถึงไม่ได้และช้ามาก กระทบทั้ง ChatGPT และ Sora ก่อนทยอยฟื้นตัวในวันเดียวกัน (บางฟีเจอร์อย่างเสียงยังแผ่วอยู่ช่วงแรก) เหตุการณ์นี้ยืนยันโดยสื่อใหญ่หลายเจ้าและหน้า Status ของ OpenAI เองครับ

ทำให้ Sam Altman ฉุกคิดว่า ต่อให้ ChatGPT ให้คำแนะนำดีมาก ยังไงก็ตาม การที่เราพร้อมใจกันจะใช้ชีวิตตามที่ AI บอก มันรู้สึกแย่และอันตราย

วิธีใช้ ChatGPT แบบ ไม่ตกเป็นทาส AI

  1. ตั้ง โจทย์+ขอบเขต ก่อนถาม
    • เขียนเป้าหมาย, เวลา, ข้อจำกัด, ใครเป็นคนตัดสินใจสุดท้าย เช่น สรุปให้ 5 ข้อ ใน 200 คำ สำหรับผู้บริหาร ระบุข้อดี/ข้อเสี่ยง แยกชัดเจน
  2. ขอ หลายคำตอบ หลายมุม เสมอ
    • ให้ Bot เสนออย่างน้อย 3 ทางเลือก พร้อมเงื่อนไขที่เหมาะ/ไม่เหมาะของแต่ละทาง
  3. ตรวจทานข้ามแหล่ง
    • ขอแหล่งอ้างอิง แล้วเช็กเองอย่างน้อย 2 แหล่ง นอกเหนือจากที่ Bot ให้ เพื่อใช้เป็น ผู้ช่วยคิด ไม่ใช่ สั่งงาน
  4. ให้ Bot ช่วยจัดเกณฑ์ตัดสินใจ/ทำเช็กลิสต์ แล้วคุณเป็นคนเลือก กันเวลางาน “ห้ามใช้ AI”
  5. งานฝึกคิด งานสนทนาสำคัญ งานประเมินคน/วัฒนธรรมองค์กร กำหนดช่วง No-AI ชัดเจน เช่น บล็อกเวลา 30–60 นาทีทำงานคิดล้วน ๆ เช่น วางแผน/เขียนร่างแรกด้วยตัวเอง

Source:

Techsauce, Techradar