AI พัฒนาใช้งานได้ในออฟฟิศและอุตสาหกรรมใหญ่ แต่การจะเข้าไปอยู่ในบ้านของเด็กๆ ที่ได้รับความไว้วางใจและปลอดภัยจากพ่อแม่นั้นไม่ง่าย เพราะกลัวข้อมูลหลุด หรือเนื้อหาไม่เหมาะสม OpenAI และ Mattel จับมือกัน เพื่อสร้างของเล่นที่มีปฏิสัมพันธ์แบบใช้งานได้จริง

12 มิถุนายน 2568 บริษัท OpenAI และ Mattel บริษัทของเล่นและบันเทิงสำหรับครอบครัวชั้นนำระดับโลก ได้จับมือร่วมกัน เพื่อสร้างของเล่นที่มีปฏิสัมพันธ์แบบฉลาดได้จริงด้วย AI ปลอดภัยกับเด็ก กับพ่อแม่เด็ก และสามารถปรับตัวตามพฤติกรรมผู้เล่นได้แบบ Real-Time ของแบรนด์ Mattel เหมาะกับวัย และสร้างสรรค์

ปัญหาใหญ่ของ OpenAI ตอนนี้คืออะไร?

แม้ว่า OpenAI จะเติบโตในตลาดองค์กรและนักพัฒนา แต่พวกเขาขาด การยอมรับจากกลุ่มครอบครัวและเด็ก

การนำ AI เข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของเด็กไทย-ต่างประเทศ ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องผ่านการตรวจสอบด้านจริยธรรม ความปลอดภัยของข้อมูล และความไว้วางใจจากผู้ปกครอง ซึ่ง Mattel ถือเป็น สะพานเชื่อม ที่สำคัญที่สุดในการพา OpenAI ไปยืนตรงจุดนั้น

ทำไม Mattel ถึงอยากจับมือกับ OpenAI?

Mattel กำลังพลิกโฉมตัวเองให้เป็น บริษัทด้าน IP และ Content ระดับโลก โดยเฉพาะหลังความสำเร็จของ Barbie Movie เมื่อปี 2023 ทำให้พวกเขาเห็นโอกาสในการขยายแบรนด์ไปสู่เกมดิจิทัล คอนเทนต์ และประสบการณ์แบบ Interactive ซึ่ง AI คือ กุญแจสำคัญที่ทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้จริง

Mattel กับ OpenAI ได้อะไรจากการร่วมมือนี้?

Mattel ได้เครื่องมือ AI ระดับ Enterprise เช่น ChatGPT Enterprise เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการออกแบบผลิตภัณฑ์ พัฒนาเกม และสร้างเนื้อหาที่มีปฏิสัมพันธ์ได้จริง

ส่วน OpenAI ก็ได้โอกาสแสดงศักยภาพของตนเองในตลาดใหม่ที่ก่อนหน้านี้ยังเข้าไม่ถึง และได้ทดสอบความสามารถของ AI บนแพลตฟอร์มที่ละเอียดอ่อนที่สุด คือ การเล่นของเด็ก

อนาคตจะเกิดอะไรขึ้นต่อ?

หากโครงการนี้สำเร็จ เราอาจได้เห็นของเล่นที่พูดคุย กับเด็กได้จริง เกมที่ปรับแต่งเนื้อหาได้แบบ Real-Time หรือระบบแนะนำการเล่นที่เหมาะสมกับพัฒนาการของแต่ละคน

นอกจากนี้ ยังอาจมีการนำ AI มาช่วยในการวางแผนการตลาด คาดการณ์เทรนด์ของเล่น และออกแบบแคมเปญที่ตรงใจผู้บริโภคได้แม่นยำขึ้น

สิ่งที่ต้องระวังคืออะไร?

ประเด็นความปลอดภัยของข้อมูล (Data Privacy) การปกป้องความเป็นส่วนตัวของเด็ก และจริยธรรมของการใช้ AI ในกลุ่มอายุน้อย ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องวางระบบควบคุมที่เข้มงวด และต้องได้รับความไว้วางใจจากผู้ปกครองและสังคมโดยรวม เพราะหากพลาดเพียงครั้งเดียว อาจทำให้เสียภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือได้ทันที

Brad Lightcap หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารของ OpenAI บอกว่า เรายินดีที่ได้ร่วมกับ Mattel ในการนำ AI มาพัฒนาแบรนด์ของเล่นระดับตำนาน และช่วยเพิ่มศักยภาพให้ทีมงานผ่าน ChatGPT

Josh Silverman หัวหน้าฝ่ายบริหารลิขสิทธิ์แบรนด์ของ Mattel บอกว่า เราเชื่อว่าการเล่นสร้างแรงบันดาลใจและเติมเต็มชีวิต AI จะช่วยขยายขอบเขตของการเล่นในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

ข้อสรุป:

ความร่วมมือระหว่าง Mattel และ OpenAI เป็นการเตรียมตัวสำหรับ โลกแห่งการเรียนรู้และการเล่นของเด็กที่จะเปลี่ยนไปตลอดกาล

Source:

OpenAI, Mattel, Techcrunch