มีเทคโนโลยีใหม่กำลังเขย่าโลกการเงิน จากเดิมที่ AI เปลี่ยนวิธีเทรดหุ้นไปแล้ว ตอนนี้ Quantum AI เริ่มเข้ามาทำงานจริงในตลาด ช่วยให้บริษัทยักษ์ใหญ่ตัดสินใจเร็วขึ้น พยากรณ์แม่นขึ้น และลดความเสี่ยงได้ดีกว่าเดิมแบบเทียบกันไม่ติด

Quantum AI ไม่ใช่แค่คอมพิวเตอร์เร็วขึ้น แต่มัน “คิดคนละแบบ” กับระบบเดิม มันสามารถประมวลผลหลายสถานการณ์พร้อมกันได้ภายในเสี้ยววินาที ซึ่งเป็นของตายสำหรับใครที่ทำ HFT, จัดพอร์ต, หรืออยากคาดการณ์ตลาด

12 มิถุนายน 2568 บริษัท IBM ประกาศร่วมมือกับ University of Illinois เพื่อก่อตั้ง IBM-Illinois Discovery Accelerator Institute โดยสนับสนุนเงิน 200 ล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 10 ปี

เป้าหมาย คือ พัฒนา Quantum Computing, AI และ Hybrid Cloud ออกมาใช้งานจริง เพื่อรองรับงานวิจัยและภาคธุรกิจจริง เช่น การเงิน การจำลองตลาดแบบเรียลไทม์และการตรวจจับการโกง

ทำไม IBM ลงทุนหนักขนาดนี้?

1. IBM เล็งเห็นว่า Quantum AI ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีเสริม แต่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของการเงินยุคใหม่

2. โครงการ IBM-Illinois Discovery Accelerator Institute จะสร้างระบบที่เชื่อม Quantum + AI + Hybrid Cloud เพื่อรองรับการเงินระดับโลก

เนื้อหาเพิ่มเติม

บริษัทที่พัฒนา Quantum AI นอกจาก IBM

  • Quantinuum พัฒนา Generative Quantum AI สร้างข้อมูลจำลองเพื่อฝึก AI สำหรับการลงทุนในตลาดที่ข้อมูลยังจำกัด เช่น Emerging Markets
  • Xanadu ใช้ Quantum Neural Networks วิเคราะห์ Order Book แบบละเอียด เพื่อพยากรณ์การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นได้แม่นยำกว่า

ทำไมต้องเริ่มตอนนี้?

1. อุตสาหกรรมควอนตัมกำลังจะถึงจุดเปลี่ยน เทคโนโลยีใกล้จะเหนือกว่าระบบเดิมจริง ๆ ภายในปี 2025

2. การสนับสนุนจากรัฐบาลและกฎระเบียบที่ชัดเจน ทำให้การเติบโตเร่งตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

ความเสี่ยงและข้อควรพิจารณา

1. Hardware มีข้อจำกัด จำนวน qubit และอัตราผิดพลาดยังไม่พร้อมใช้งานเต็มรูปแบบ แต่มีความก้าวหน้า เช่น SpinQ’s Gemini series ที่ใช้ qubit อุณหภูมิห้อง

2. ขาดแคลนบุคลากร ความต้องการสูงกว่าการผลิต แต่เริ่มมีโครงการฝึกอบรมเฉพาะทาง เช่น IBM-Illinois Institute เพื่อปิดช่องว่าง

แนวทางการลงทุน

1. เลือกผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐาน บริษัทอย่าง IBM, Quantinuum และ Xanadu กำลังสร้างพื้นฐานสำคัญสำหรับ Quantum AI ในตลาดการเงิน

2. มองหาโซลูชัน Hybrid ก่อน เลือกลงทุนในระบบควอนตัม-คลาสสิก เช่น Watson X ของ IBM หรือ PennyLane ของ Xanadu ที่ใช้งานได้จริงตั้งแต่วันนี้

3. จับตาเหตุการณ์สำคัญ คอยติดตามความคืบหน้า เช่น ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ 4,000 qubit ของ IBM (2025) หรือกฎระเบียบที่รองรับ Quantum Trading

ข้อสรุป:

IBM ลงทุน $200 ล้านร่วมกับมหาวิทยาลัย Illinois เพื่อเร่งพัฒนา Quantum AI และ Hybrid Cloud ใช้งานจริงในภาคการเงิน เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่เตรียมความพร้อมให้ IBM เป็นผู้นำเทคโนโลยีระดับโลก ขณะที่นักลงทุนและสถาบันการเงินเริ่มเห็นผลลัพธ์จากการใช้งานจริงได้แล้ววันนี้

Source:

AInvest