Google เดินหน้าต่อ ล่าสุดปล่อย Gemini Code Assist ผู้ช่วยในการเขียนโค้ด ให้กับทุกคน รองรับทุกภาษา พร้อมฟีเจอร์เช็คโค้ด โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อสนับสนุนนักพัฒนา ให้เดินหน้าก้าวไปในยุค Agentic AI รวมถึงเพื่อเปิดโอกาสใหม่ที่ทุกคนควรมีสิทธิ์เข้าถึง
26 กุมภาพันธ์ 2568 Google ประกาศอัปเดต Gemini Code Assist จากเดิมเปิดให้ใช้กับนักพัฒนา เมื่อปีที่แล้ว ในงาน Google Next Cloud เป็น เปิดให้ใช้งานกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน ฟรีแลนซ์ หรือ บุคคลทั่วไปครับ เพียงสมัครด้วย Gmail ส่วนตัว ก็สามารถเขียนโค้ดได้อย่างอิสระ
งานวิจัยจาก DORA บอกว่า องค์กรที่มี นักพัฒนาซอฟต์แวร์ สามารถเข้าถึงเครื่องมือ AI ครบทุกอย่าง ในขณะเดียวกัน เครื่องมือ AI เหล่านี้ ไม่สามารถเข้าถึงกับเด็ก, นักเรียน, ฟรีแลนซ์หรือบุคคลที่ไม่ได้ทำงานเขียนโค้ด และประชากรนักพัฒนามีจำนวนมากขึ้นทุกปี
ทาง Google ตระหนักคิดว่า เพื่อลดช่องว่างสำหรับคนที่ไม่สามารถเข้าถึงเครื่องมือ AI เหล่านี้ จึงเปิดตัว Gemini Code Assist ให้เข้าถึงทุกคนแบบสาธารณะ ด้วยโมเดล Gemini 2.0 แบบฟรี สามารถทดลองใช้เครื่องมือได้ครบทุกตัว
ความสามารถของ Gemini Code Assist
Gemini Code Assist เล่นได้บน Visual Studio Code, Jetbrains IDEs และ Github รองรับ Input Tokens ถึง 128,000 Tokens เล่นได้มากถึง 180,000 ครั้งต่อเดือน มากกว่า AI ค่ายอื่นถึง 90 เท่า
นอกจากนี้ รองรับภาษาโปรแกรมได้ทุกภาษา เช่น Python, Javascript, HTML เป็นต้น ช่วยลดระยะเวลาในการทำงานซ้ำ ๆ เช่น เขียนคำอธิบายหรือ Test อัตโนมัติ, แนะนำการสร้าง, แก้ไขและเปลี่ยนแปลงโค้ดอัตโนมัติ มีความเข้าใจเรื่องข้อมูลโค้ดในเครื่องแต่ละคน
หากใช้ Gemini Code Assist ผ่าน Github จะได้รับความช่วยเหลืออย่างมาก จาก AI Agent ช่วยรักษาโค้ดที่เขียนอย่างมีคุณภาพ ทำให้นักพัฒนาสามารถจัดการแก้ไขงานที่ซับซ้อนได้ง่ายขึ้น และสามารถส่งความเห็น ใน IDE หรือใน Github เพื่อปรับปรุงการทำงานของ Gemini Code Assist
ข้อจำกัด
ความสามารถฟรีอาจไม่ครอบคลุมทุกฟีเจอร์: เช่น การวิเคราะห์จากฐานข้อมูลส่วนตัว หรือการเชื่อมกับ Google Cloud ครับ ยังต้องมีมนุษย์มาตรวจสอบ แม้ AI ช่วยเขียนโค้ดได้ดี แต่โค้ดที่สร้างมาอาจต้องปรับแต่งหรือพบข้อผิดพลาดเพิ่มเติม เพื่อให้เหมาะสมกับโปรเจกต์ และ การใช้งาน Gemini Code Assist ต้องออนไลน์ตลอดเวลา เพราะบริการบน Cloud
ประโยชน์
มือใหม่ที่ไม่เคยเรียนหรือรู้จักการเขียนโค้ด ไม่ว่าจะมีงบประมาณมากหรือน้อ ก็สามารถเรียนรู้วิธีเขียนโค้ดด้วยเครื่องมือขั้นสูง ผ่านคำแนะนำของ AI, ลดข้อผิดพลาดในโค้ด โดยให้ AI ช่วยตรวจสอบโค้ดและเสนอแนะการปรับปรุง เพื่อเพิ่มคุณภาพการทำงาน ช่วยสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ทดลองไอเดียใหม่ๆ ได้รวดเร็วขึ้น ทำให้เกิดโปรเจกต์สร้างสรรค์มากขึ้น
จะเห็นได้ว่า Gemini Code Assist สามารถตอบโจทย์กับบุคคลหลากหลายประเภท ไม่จำกัด อยู่กับนักพัฒนา ช่วยสร้างโลกของการเขียนโค้ด ให้ทุกคนได้เปิดประสบการณ์ทักษะการเขียนโค้ด และการทำงานโปรเจคตั้งแต่เล็กจนใหญ่
ข้อสรุป:
การที่ Google อัปเดต Gemini Code Asssist ให้เข้าถึงได้กับทุกคน ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี ทาง Google คาดการณ์ว่า จะมีประชากรอีกจำนวนมากที่หันมาใช้งานเขียนโค้ดกันเยอะ แม้จะไม่มีเงินจ่าย แสดงให้เห็นว่า Google สนัยสนุนนักพัฒนาให้ก้าวไกล ตามโลกเทคโนโลยีให้ทัน
