2 ธันวาคม 2568 Sam Altman, CEO OpenAI ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินอย่าง Code Red (โหมดเร่งด่วน) บอกกับพนักงานผ่านอีเมลว่า We are at a critical time for ChatGPT

สาเหตุมาจาก:

  1. แรงกดดันจาก ความสำเร็จของ AI อย่าง Gemini 3.0 Pro ของ Google โดยตรง ทำให้บริษัทต้องทุ่มทรัพยากรภายในมากขึ้นเพื่อพัฒนา ChatGPT
    • นอกจากนี้ Marc Benioff (CEO Salesforce) ออกมาพูดตรง ๆ ว่า ใช้ ChatGPT มาตลอด 3 ปี แต่พอลอง Gemini 3.0 Pro แค่ 2 ชั่วโมง ก็ประกาศ I’m not going back เป็นสัญญาณอันตรายว่า Perception ในตลาดเริ่มขยับ
  2. ChatGPT มีคนใช้เยอะ แต่คู่แข่งมี Resources หนากว่า เยอะกว่า
    • ChatGPT มี 800 ล้านผู้ใช้ต่อสัปดาห์ ตัวเลขสวยมาก แต่ Google มี เงินสด + data + infra (Data Centter) ระดับมหาศาลจากธุรกิจ Search ถ้าปล่อยให้ Google วิ่งนำไปเรื่อย ๆ โดยที่ตัวเองไม่อัปเกรดเร็วพอ วันหนึ่งจำนวนผู้ใช้ก็อาจเริ่มไหลออกได้
  3. กระแสตลาด + ภาพลักษณ์เริ่ม “เสียจังหวะ”
    • พอมีข่าวว่า Gemini 3 แรงกว่า ผู้บริหารใหญ่ประกาศเปลี่ยนค่ายแบบ public ซึ่งทำให้ Sam Altman ต้องส่งสัญญาณบอกพนักงานว่า เราอยู่ในช่วงจังหวะเปลี่ยนเกม
  4. เลือกโฟกัส – เลื่อนโฆษณา หันมาปั้นคุณภาพก่อน
    • เดิมมีแผนทดลองเอาโฆษณาเข้า ChatGPT แต่ตอนนี้ เลื่อนเรื่อง ads ออกไป แล้วกลับมาโฟกัสที่ ทำให้ chatbot เก่งขึ้น ค่อย monetize ทีหลัง

Sam Altman มองเกมว่า ถ้าช่วงนี้เราช้า เท่ากับเสียโอกาสทั้งตลาด ผู้ใช้ และความเชื่อมั่นนักลงทุน

ข้อสรุป:

OpenAI ประกาศใช้ Code Red เพราะตอนนี้ไม่ใช่แค่เรื่องฟีเจอร์แพ้หรือชนะ แต่เป็นเรื่องภาพลักษณ์ ผู้นำตลาด ความเชื่อมั่นนักลงทุน และแผนลงทุนระดับล้านล้านดอลลาร์ในอีก 8 ปีข้างหน้า ถ้าปล่อยให้คู่แข่งนำหน้าโดยไม่เร่งเครื่อง ตอนหลังอาจต้องวิ่งไล่ด้วยต้นทุนที่แพงกว่าเดิมมาก

Source:

Testing Catalog, Wall Street Journal, The Guardian