20 พฤศจิกายน 2568 McKinsey ออกบทความใหม่ชื่อว่า State of Marketing Europe 2026 รายงานนี้บอกถึงทุกองค์กร ยังไม่กล้ารับเอาศักยภาพแบบพลิกเกมของ AI และเทคโนโลยีอื่น ๆ มาใช้เต็มที่ และนั่นอาจทำให้หลายบริษัทในยุโรปกำลังอยู่ ปากเหว ของการเปลี่ยนผ่านด้าน AI ครั้งใหญ่ เก็บข้อมูลจากหัวหน้าการตลาด 500 คนจากทั่วยุโรป (ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สเปน อังกฤษ)
พบว่า
- 94% ขององค์กรการตลาดในยุโรป ยังไม่ยกระดับความพร้อมด้าน Gen AI ไปไกลเท่าไร ติดทั้งผู้นำที่ระมัดระวังเกินไป ความรู้เชิงปฏิบัติที่ยังจำกัด และโปรเจกต์ที่กระจัดกระจาย
- 6% ของผู้บริหารการตลาดที่บอกว่าองค์กรตัวเองใช้ gen AI ในระดับ mature
- $463B ศักยภาพของ AI ในการขับเคลื่อน productivity ด้านการตลาด
- 3 ใน 4 CMOs วางแผนจะเพิ่ม Budget การตลาด แต่มี 3% ของ CMOs ที่สามารถแสดง MROI ได้มากกว่า 50% ของเม็ดเงินการตลาดทั้งหมด
CMO ในยุโรปมีแนวคิดออกมาเป็น 3 แกนใหญ่ของการตลาดยุคนี้
- Be trusted ทำให้แบรนด์น่าเชื่อถือ
- 4 ใน 5 อันดับแรกของสิ่งที่ CMO ให้ความสำคัญคือ
- Branding ทำให้คนรับรู้ ชอบ และจำเราได้ ทั้งภาพลักษณ์ ตัวตน คุณค่าที่แบรนด์ยืนอยู่
- Data privacy
- Authenticity (ความจริงใจ ความเป็นตัวเองของแบรนด์) แบรนด์ที่ พูดจริง ทำจริง สอดคล้องกับคุณค่าที่บอกไว้ ไม่เฟค ไม่เล่นคำ
- Employer branding (แบรนด์นายจ้าง)
- สิ่งที่กำลังจะมาแรงใน 2 ปีข้างหน้า:
- Creativity / Uniqueness – ความคิดสร้างสรรค์และเอกลักษณ์
- Value perception – ทำให้คนรู้สึกว่า คุ้มค่า
- Trendiness / Cultural relevance – อยู่ในวัฒนธรรม อยู่ในกระแส ไม่หลุดยุค
- อีก 2 ปีถัดไปสัดส่วนที่ใช้ แคมเปญเต็ม funnel
- โฟกัสคือ สร้างแบรนด์ระยะยาว ไม่ใช่แค่ยิงแคมเปญสั้น ๆ แล้วจบ
- ตัวอย่างเช่น
- Dove – Real Beauty
- แคมเปญที่เล่นเรื่องความสวยแบบจริง ไม่ใช้คนหุ่นเป๊ะอย่างเดียว ทำมาตั้งแต่ 2004 ยืนยันภาพ แบรนด์เพื่อ self-esteem ของผู้หญิง ยาว ๆ จนวันนี้กลายเป็นแบรนด์ระดับ $7.5B
- Share a Coke เวอร์ชัน 2025
- ขวดมีชื่อ → Awareness + engagement
- QR code → ดึงเข้า digital experience
- Live event + influencer → กระตุ้นยอดขายจริง
- Dove – Real Beauty
- ภาพรวมคือ เอา Brand Story + Performance Media มารวมในแคมเปญเดียว ไม่แยกทีม Brand กับ Performance ทำแบบคนละโลก
- CMO ชอบพูดเรื่อง Interactive Branding แต่ของจริงยังทำไม่สุด เพราะ
- 47% บอกว่า ยังไม่มี brand strategy ที่ชัดพอสำหรับฟอร์แมตใหม่ ๆ
- 41% ขาด skill ในการออกแบบ/execute
- 40% ยังไม่รู้จะวัด ROI ยังไง
- สิ่งที่คนที่ไปได้ไกล ทำคือ เอา Gen AI มาช่วย 3 อย่างหลัก ๆ
- Media optimization – ใช้ AI ช่วย optimize media
- Market research / insight / trend spotting – อ่านข้อมูลเยอะ ๆ ให้เร็วขึ้น
- Personalized content at scale – ยิงคอนเทนต์แตกเวอร์ชันตามกลุ่ม
- ครีเอทีฟที่มีแก่นจริง + ทำยาว ๆ = ผลธุรกิจจริง
- 4 ใน 5 อันดับแรกของสิ่งที่ CMO ให้ความสำคัญคือ
- Be effective ใช้เงินให้คุ้ม
- 72% ของ CMO บอกว่า จะเพิ่มงบการตลาด เทียบกับยอดขายในปีหน้า
- บอร์ดก็กดดันให้ตอบให้ได้ว่า ใช้เงินแล้วคุ้มไหม? จึงมี 2 เรื่องที่เด้งขึ้นมาชัดมาก
- Budget Management – วาง แบ่ง คุมงบ
- Marketing ROI (MROI) – เงินที่จ่ายไป ได้ยอดขาย / กำไรกลับมาจริงแค่ไหน
- CMO ต้องคุยกับ CFO เป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่ทำงานกันคนละโลก
- 3 อย่างที่ ยุโรปมีความเด่นชัดกว่าชาวบ้าน:
- 1. Profit growth – โตแบบมีกำไร
- 2. Revenue growth – ยอดขายโต
- 3. Market share growth – แย่งส่วนแบ่งตลาด
- รวมถึง new customer, retention, price increase ก็มี แต่รองลงมา
- ปีที่แล้ว (2024) มี 49% ที่เพิ่มสัดส่วนงบต่อยอดขาย
- ปีหน้า (2025) CMO คาดว่า 72% จะเพิ่ม และมีแค่ 1% ที่คิดว่าจะลด
- Mindset คือ อยากใช้การตลาดเป็นตัวขับ Growth ไม่ใช่แค่ของที่ต้องตัด
- Top 3 ที่ CMO บอกว่าจะเพิ่มงบ:
- 1. Gen AI-enabled marketing – ใช้ Gen AI กับงานการตลาด
- 2. MROI measurement – ระบบวัดผลให้ชัด ว่าเงินที่ลงไปได้อะไรกลับมา
- 3. Consumer insights – เข้าใจลูกค้าลึกขึ้น
- ของจริง: วัดได้ไม่ถึงครึ่ง
- อุปสรรคที่ CMO ถูกพูดถึงบ่อย:
- 1. ข้อมูลไม่ครบ / คุณภาพ data ไม่ดี
- 2. ขาดคนที่อ่าน data แล้วแปลเป็น insight
- 3. ทีมไม่พอ / Culture ยังไม่ขับเคลื่อนด้วย data
- 4. โครงสร้างการทำงานเป็น Silo ได้ insight แล้วเดินไม่ถึงการตัดสินใจจริง
- Operating model สำหรับ MROI ที่เขาแนะนำ
- ใน State of Marketing Europe 2026 เสนอภาพแบบนี้:
- มีทีมกลางเป็น Center of Excellence เรื่อง measurement
- ทีมปฏิบัติ (doers) อยู่ตามประเทศ / แชนเนล
- ทุกคนในองค์กร (users) ต้องอ่านตัวเลขเป็น และรู้จะเอา insight ไปแปลงเป็น action
- ตัวอย่างเช่น เคส: Lindt & Sprüngli – ใช้เงินอย่างมีวินัย สร้างแบรนด์ช็อกโกแลตอันดับ 1
- เขาถูกจัดอันดับเป็น แบรนด์ช็อกโกแลตที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก
- ช่วงราคาวัตถุดิบ (cocoa) พุ่ง เขา ไม่ตัดงบการตลาด แต่เลือก
- 1. เพิ่มประสิทธิภาพด้านอื่น
- 2. ขึ้นราคาบางส่วน
- 3. รักษาการลงทุนในแบรนด์ไว้ เพราะเล่นสาย premium
- หลักคิดใช้เงิน:
- ลงเพิ่มในประเทศ/ภูมิภาคที่มีศักยภาพโตสูง
- เน้นหนักที่ franchise หลัก (Lindor, Excellence) + innovation ที่มี business case ชัด
- ลงสื่อในช่องทางที่เข้าถึงกว้างและคุณภาพดี แล้วกันงบก้อนเล็กไว้ลองของใหม่ (test & learn)
- เรื่อง MROI:
- เน้นวัด ระยะยาว – brand equity, mental availability
- ใช้ MMM มาช่วยปรับงบตาม channel แต่ KPI ใหญ่ คือ แบรนด์แข็งขึ้นหรือไม่
- Be bold กล้ากับ Gen AI และ Agentic AI
- ในยุโรปมีแค่ 6% ที่มองว่าบริษัทตัวเอง “ใช้ Gen AI ได้ mature แล้ว”
- กลุ่มนี้ มีประสิทธิภาพเพิ่มเฉลี่ย 22% และคาดว่าจะขึ้นไป 28% ในอีก 2 ปี
- แต่ภาพรวม Gen AI ดันอยู่อันดับ 17 จาก 20 เรื่อง ในลิสต์ความสำคัญ…
- Gen AI laggards – สะดุดเรื่องหนัก ๆ อย่าง
- โครงสร้างเทคโนโลยีพื้นฐาน (81%)
- การทำให้คนใช้จริง (adoption & scaling)
- Data Foundation
- Gen AI leaders – ขยับไปเจอปัญหาเลเวลกลยุทธ์
- Strategy & guardrails ยังไม่ชัด
- Operating model ยังไม่ลงตัว
- เรื่อง AI models / MLOps tools ฯลฯ
- ถ้าปล่อยให้โครงการ AI เป็น Pilot แยกก้อน ไม่ไปรีดีไซน์ process และวิธีทำงานทั้งระบบ ก็จะไม่เห็น impact จริง
- ถ้ายังช้าแบบนี้ เขาเตือนว่า แบรนด์ยุโรปจะโดนคู่แข่งระดับโลกทิ้งห่าง
- Agentic AI ด่านถัดไปของ Gen AI
- AI ที่ตอบ → AI ที่วางแผน + ตัดสินใจ + ลงมือทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
- มี Agent หลายตัวทำงานร่วมกัน แบ่ง task ย่อย ๆ แล้วทำงานอัตโนมัติ
- ตัวอย่างเช่น
- Coca-Cola – ระบบ agentic AI แจกคูปอง
- 1. AI ไปสแกนโพสต์ social นับล้าน ๆ หาคนที่น่าจะอินแบรนด์
- 2. จับคู่กับ profile data สร้างกลุ่มย่อย
- 3. สร้างและส่งข้อเสนอส่วนตัวในระดับคูปองรายบุคคล
- 4. ได้ click-through rate สูงกว่าปกติ 4 เท่า และต้นทุนถูกกว่าการทำมือมาก
- L’Oréal
- 1. ใช้ AI อ่าน social แสนล้าน เพื่อดูเทรนด์ความงามที่กำลังมา
- 2. สร้างไอเดียผลิตภัณฑ์ใหม่ ทดสอบออนไลน์ รับ feedback เร็ว
- 3. มี Virtual Assistant ให้คำแนะนำความงามแบบ personalize
- AI เปลี่ยน การค้นหาและการซื้อ ยังไง มี 2 เทรนด์ใหญ่ที่น่าจับตามอง:
- 1. AI search / answer engine
- คนเริ่มถาม AI ตรง ๆ มากกว่าค้น Google แบบเดิม
- ทำให้ SEO เดิม ๆ ต้องกลายเป็น GEO (Generative Engine Optimization) คือ ทำยังไงให้แบรนด์เราถูกพูดถึง ในคำตอบของ AI
- 2. Agentic Commerce
- AI Agent ไปเลือกสินค้า เปรียบเทียบราคา และสั่งซื้อแทนคน
- ฟีเจอร์ Buy it in ChatGPT – คุยเสร็จ ซื้อได้เลยในแชท
- 1. AI search / answer engine
- แบรนด์ต้องคิดใหม่ทั้ง ช่องทาง และ วิธีทำให้ AI เลือกเรา
ภาพรวมทั้งเล่ม แบบเอาไปใช้ได้เลย
- CMO / ผู้บริหารยุโรปกับ 3 สิ่งที่ต้องมี:
- พื้นฐานต้องแน่น (Be trusted)
- แบรนด์แข็ง = ที่พึ่งของลูกค้าในโลกผันผวน
- คนอินแบรนด์เพราะความจริงใจ ไม่ใช่แค่โฆษณาสวย
- interactive branding, full-funnel campaign และการเล่าเรื่องที่มีแก่นจริง จะเป็นตัวแยก แบรนด์ธรรมดา ออกจาก แบรนด์ที่คนรัก
- เงินต้องใช้เป็น (Be effective)
- งบอาจไม่ลด แต่คนถือเงินอยากเห็นว่าคุ้มค่าจริง
- ใครวัด MROI ได้กว้างและลึกกว่า จะคุมเกมการตัดสินใจลงทุนได้
- การตลาดต้องกลายเป็น คนขับ Growth ที่ CFO กับ CEO เชื่อใจได้
- ต้องกล้าเล่นให้สุดกับ AI (Be bold)
- Gen AI ไม่ใช่แค่ของเล่นทีม content แต่มีผลต่อ efficiency ทั้งระบบ
- ใครเริ่มก่อนและ Scale ได้ จะได้ทั้งต้นทุนที่ต่ำลงกับ Speed ที่เหนือกว่า
ด่านถัดไปคือ Agentic AI ที่จะเข้ามาแทรกทุกจุดของ journey ตั้งแต่ค้นหาไปจนปิดการขาย




