รายงาน McKinsey ชี้ว่า AI Agents สร้างมูลค่าได้มาก โดยองค์กรเริ่มใช้ทั้ง Virtual Agents (ตั้งแต่ช่วยงานง่ายๆ จนถึงระบบ AI-first แบบเต็มรูปแบบ) และ Physical Agents (เช่น โดรน รถยนต์ไร้คนขับ หุ่นยนต์) เพื่อเชื่อม AI กับโลกจริง
องค์กรแบบ Agentic คือ การเปลี่ยนมุมมองจาก แผนผังองค์กรตามลำดับชั้น/แผนก ไปเป็น แผนผังงานตามผลลัพธ์ (workflows + outcomes) ช่วยลดงานหนัก ตัดสินใจเร็วขึ้น ถูกสร้างบน 5 เสาหลัก:
1. Business Model (โมเดลธุรกิจ)
- ช่องทาง AI ทำให้คุยกับลูกค้า “ตัวต่อตัวแบบเรียลไทม์” ได้ทุกวัน
- ย้ายงานซ้ำ ๆ ให้ agents ดูแล ต้นทุนส่วนเพิ่มไหลลงใกล้ cost of compute
- เกมชนะอยู่ที่ proprietary data—ใครเก็บ/กลั่นดีกว่า ก็ปรับข้อเสนอได้ไวกว่า
- เช่น เล่าเรื่องแบบลูกค้าหนึ่งคน: จากถามบิล → ได้แพ็กเกจเหมาะตัว → จบดีลในแชตเดียว
2. Operation Model (โมเดลปฏิบัติการ)
- เลิกคิดเป็นแผนก คิดเป็น Workflow แบบ end-to-end ที่มีมนุษย์คุมจากเหนือวงจร โดยการตั้ง Agentic Team ทีมเล็ก 2–5 คน คุม Agents Factory 50–100 ตัว
- ลดการส่งต่องาน, รออนุมัติ ผู้ชนะจริงจะ Orchestra ทีมให้สอดจังหวะกัน เครือข่ายแบน คล่องตัว เคลื่อนไปสู่ Value เดียวกัน
- เช่น เปิดตัวสินค้าใหม่จากไอเดีย → ทดสอบ → แคมเปญ อัตโนมัติแทบทั้งเส้น
3. Governance (การกำกับดูแล)
- ตัดสินใจแบบเรียลไทม์ เช่น budgeting/forecast/report วิ่งด้วย agents ไม่ต้องรอผลเป็นไตรมาสแต่ละไตรมาส
- ฝัง guardrails: critic/compliance/brand voice ตรวจงานอัตโนมัติทุกขั้น
- มนุษย์ยังคุมอยู่ แต่คุม “สัญญาณและข้อยกเว้น” ไม่ใช่เช็กทีละบรรทัด
- เป้าใหญ่ คือ จุดพอดี เร็วพอให้ชนะ ปลอดภัยพอให้ Scale ได้ยาว
4. Workforce, People & Culture (บุคลากรและวัฒนธรรม)
- งานทำซ้ำให้ Agent, คนหันมาวางเป้า-ชั่งน้ำหนัก-คุมผลลัพธ์ จนเกิด 3 บทบาท:
- M-shaped orchestrator สายกว้างที่คล่อง AI ออร์เคสตร้า agents และแรงงานไฮบริดข้ามโดเมน
- T-shaped specialist ผู้เชี่ยวชาญลึกที่ออกแบบ workflow ใหม่ รับมือข้อยกเว้น และคุมคุณภาพ
- AI-augmented frontline workers เสริม AI บริการ HR หรือปฏิบัติการ ที่ใช้เวลาน้อยลงกับระบบ และมากขึ้นกับมนุษย์
- HR ต้องนับทั้ง “คน+ Agnets” วัดผลงานจากการ Orchestra และมูลค่าที่สร้าง ไม่ใช่แค่งานเสร็จ วัฒนธรรม คือ กาวและเข็มทิศ ต้องชัดเจน ตัดสินใจไว เรียนรู้ต่อเนื่อง และสร้างความไว้ใจคน + Agent
5. Technology & Data (เทคโนโลยีกับข้อมูล)
- เปิดสิทธิ์ทำเทค/ข้อมูลแบบคุมได้ด้วย AI mesh กับ agent-to-agent ให้ระบบ–เครื่อง–คน คุยกันง่าย
- เลือก build หรือ buy แบบ dynamic ด้วยการล็อก บริบทองค์กรไว้ เริ่มจากตั้ง data products สำคัญ, เลือกโดเมน lighthouse, วัดผลแล้วค่อยสเกล
ข้อสรุป:
Agentic Organization การจัดองค์กรให้ คนคุม–Agent ลงมือ โดยใช้ AI agents (virtual/physical) รันงานลึก ๆ แบบ AI-first วิธีเริ่มคือ ตั้ง Agentic Team เล็ก ๆ ที่วัดผลชัด ฝัง guardrails/observability ตั้ง data products + Agentic AI mesh ให้ต่อระบบไว อัปสกิลคนเป็น M-shaped/ T-shaped แล้วขยายเป็นเครือข่ายแบนที่ขับเคลื่อนด้วยผลลัพธ์จริง