คุณเคยปวดหัวกับงานที่ทำไหม ตั้งแต่การค้นไฟล์ไม่เจอ

ก่อนประชุมต้องเตรียมโน้ตเอง หลังประชุมสรุปเอง

งานเอกสารใช้เวลามากเกินไป สิ่งเหล่านี้กำลังจะหมดไป

ChatGPT แก้ปัญหาด้วย Connectors เชื่อมข้อมูลจาก App ภายนอก

สรุปประชุมด้วย Record Mode รวมถึงทำงานเชิงลึกง่ายขึ้น

4 มิถุนายน 2568 บริษัท OpenAI อัปเดตครั้งใหญ่ใหญ่ใน ChatGPT เพิ่มฟีเจอร์ใหม่สำหรับสาย Business (Team, Edu, Enterprise ) เพื่อจัดการข้อมูลภายในองค์กร, สรุปการประชุม, และทำงานวิเคราะห์ลึก ๆ ง่ายขึ้น

มี 3 ฟีเจอร์ คือ Connectors, Record Mode และ Deep Research + MCP

ทำไม 3 ฟีเจอร์นี้สำคัญ

– ลดเวลาสรุปงานหลังประชุม, ติดตามงานต่อได้รวดเร็ว

– วิเคราะห์ข้อมูลจาก Apps ภายนอกได้ รวมถึงแอพฯ Microsoft-Google พร้อมแหล่งอ้างอิงและลิงก์ตรวจสอบ

– ปรับแผนตามความต้องการของผู้ใช้งานได้

3 ฟีเจอร์ใหม่ใน ChatGPT

1. Record Mode

– บันทึกเสียง + สรุปการประชุมอัตโนมัติ

– ใช้บันทึกเสียงการประชุมผ่านหน้า ChatGPT โดยตรง

– ถอดเสียงออกเป็น Transcript + สรุปประเด็นสำคัญ + เชื่อมโยงเวลา

– ใช้ได้บน Mac ก่อนใคร (ChatGPT Team ก่อน แล้วไปแผนอื่นเร็ว ๆ นี้)

– สามารถบันทึกเสียงได้ยาวสูงสุด 2 ชั่วโมงต่อ 1 Session

2. Connectors เชื่อมต่อคลังข้อมูลในบริษัท

– เชื่อม Google Drive, Microsoft Team, OneDrive, SharePoint

– ถามใส่ ChatGPT ได้เลย ระบบจะดึงข้อมูลจริงจากไฟล์ของคุณมาตอบ

– ปลอดภัย 100 % ระบบเคารพสิทธิ์การเข้าถึงแบบเดียวกับที่คุณตั้งไว้

3. Deep Research + MCP วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกได้มากขึ้น

– ทำรายงานวิจัยละเอียดได้จากข้อมูลภายใน + ข้อมูลออนไลน์

– ใช้งานผ่าน Deep Research และรองรับ MCP เชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลนอกเหนือจากที่ OpenAI มีอยู่

– ใช้ได้ทั้ง HubSpot และเครื่องมือ Microsoft-Google บางตัว

นอกจากนี้ยังมี Codex AI ผู้ช่วยเขียนโค้ดแบบ Agent ขยายการบริการมาสู่ผู้ใช้แผน ChatGPT plus แล้วครับ 

ราคาและการใช้งาน

– Enterprise ซื้อเครดิตเพิ่มได้ ไม่มีจำกัด

– ChatGPT Team จะเริ่มมีระบบเครดิตเสริมในอนาคต

– ตอนนี้ทดลองใช้แผน ChatGPT Team ในราคาพิเศษ $1 ต่อเดือน/5 users เป็นเดือนแรก

เหมาะกับใคร

– SMEs

– องค์กรใหญ่

ข้อสรุป:

ChatGPT จะเป็นผู้ช่วยทำงานในส่วนที่ไม่จำเป็นแล้วในออฟฟิศ สามารถจัดการข้อมูลจริงขององค์กร, สรุปงานประชุม, วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกได้เหมือนมีทีมงานคนหนึ่ง

Source:

OpenAI, CNBC, INC, LinkedIn, Techcrunch