สรุป Session Marketing Trends: MarTech & AI จากงาน Marketing Conference 2025 โดย

  1. คุณวสุพล ธารกกาญจน์ Chief Operating Officer, Microsoft (Thailand)
  2. คุณไชยพงศ์ ลาภเลี้ยงตระกูล President of MarTech Association and CEO of PAM Real CDP
  3. คุณเก่ง สิทธิพงศ์ CEO, Co-Founder, Content Shifu เป็น Moderator

เทรนด์ปีที่ผ่านมา

  • 3 ปีของยุค GenAI ทำให้ผู้ใช้ธุรกิจเป็นดาวเด่น เพราะเทคโนโลยีเข้าใจภาษาคน ไม่ต้องเป็นสาย IT ก็ใช้ได้จริง

ผลใหญ่มีสองมิติ:

  1. เร็วขึ้น
  2. ถูกลง

โดยเฉพาะงานวางแผน-ทำแคมเปญ-สร้างคอนเทนต์ ที่เดิมกินเวลาคนเยอะมาก ประสบการณ์ลูกค้าดีขึ้นพร้อมลดต้นทุนการผลิตสื่อ บรีฟดี ซอยงานไว ลองผิดลองถูกได้รัว ๆ

3 งานการตลาดที่ AI ช่วยชัด

  • สรุปจากลูกค้า Microsoft: AI ขยายรายได้ + กดต้นทุน ด้วยการย่นเวลาจากวันเป็นนาที และทำซ้ำได้มาตรฐาน พลังสำคัญคือ ผู้ช่วย AI ปริญญาเอกที่ทำงาน 24/7 เสก Insight, เขียน, ทดสอบ และรีเทิร์นรอบใหม่ทันที
  • Workflow จากวิจัย→เขียน→ปล่อย→มอนิเตอร์ เชื่อมติดกันมากขึ้น ลดลีดไทม์อย่างรู้สึกได้
  1. Customer Insight
  2. Campaign Execution
  3. Content Creation

Use Case Microsoft x Coca-Cola

  • แคมเปญ คุยกับซานต้า ทำ Hyper-personalization ที่สเกลโลกด้วย Azure AI ภายใน 60 วัน เปิดใน 43 ประเทศ 26 ภาษา สร้าง Engagement ระดับหลักล้าน จุดสำคัญ คือ บริการ AI หลายตัวทำงานประสานแบบ End-to-End บนแพลตฟอร์มเดียว

4 เทรนด์ MarTech ที่ เกิดขึ้นแล้ว

  • GenAI กลายเป็นเรื่องปกติในกระบวนการทำงาน—Agencies/Brand ใช้กันจริงจังทั้งข้อความ รูป วิดีโอ
  • MarTech SaaS ใส่ฟีเจอร์ AI เป็นมาตรฐาน: CRM, CDP, Chat, E-commerce, Social Listening ฯลฯ
  • แบรนด์หันมาเก็บ First-Party Data จริงจัง เพื่อทำ Hyper-segmentation และ PDPA-ready แล้วเชื่อมทุกระบบผ่าน CDP กลาง
  1. GenAI ใช้จริงในงาน ใช้งานครอบคลุมตั้งแต่เก็บ Insights → คิด Creative → เขียน Scripts/Copy → Edit → QC ด้วย AI
  2. MarTech ทุกหมวดมี AI ฝังตัว ขยับจากวิเคราะห์อดีต (Reactive) ไปสู่คาดการณ์อนาคต (Proactive)
  3. เก็บ/ยกระดับ First-Party Data ใช้ข้อมูลส่วนตัวอย่างเหมาะสม, ทำ Personalization ดีให้ ROI 5–8x และดันยอดขาย >10%
  4. CDP เป็นสมองกลางของ Ecosystem Engine จะตัดสินใจที่รวมตัวตนแบบเรียลไทม์, Orchestra /Journey และหา Segment อัตโนมัติ

Journey to the Frontier Firm

  • เส้นทางใช้งาน Agent ในองค์กร แบ่งเป็น 3 ระยะ:
  1. Phase 1 ทุกคนมี AI ผู้ช่วยส่วนตัว
  2. Phase 2 มนุษย์คุม Agent หลายตัวเป็นเพื่อนร่วมทีม
  3. Phase 3 มนุษย์กำหนดทิศทางแล้ว Agent รันทั้งกระบวนการ

AI Transformation: ใช้แบบสเกลองค์กร

  • จากเครื่องมือส่วนตัว → โครงสร้างใหม่ทั้งคน ลูกค้า กระบวนการ & product
  • องค์กรจะเริ่มมี Agent หลายบทบาท เราเป็นผู้จัดการสั่งงานและตรวจรอบสุดท้าย
  • กรณีใช้งานยาวทั้งเส้น: research → content → publish → monitor ให้ Agent ผลัดไม้ทำงานต่อกัน
  1. Employee Productivity
  2. Customer Engagement
  3. Autonomous/Agentic Process
  4. New Product & Service
  1. The Autonomous Marketer ก้าวต่อไป Agentic AI ระบบที่ วางแผน-รัน-ปรับแต่ง เวิร์กโฟลว์การตลาดเองแบบอัตโนมัติ (ยังมีมนุษย์คุม)
  2. Governance ทำให้จริยธรรม-ความไว้วางใจ ใช้งานได้จริง องค์กรต้องเลิกทำแบบเฉพาะกิจ มาวางกรอบกำกับจริงจัง รวมถึงความเป็นส่วนตัว/ความปลอดภัย
  3. AI in Immersive Experiences AR/VR กำลังเกิดใหม่ เพราะฮาร์ดแวร์สุกงอม (เช่น Ray-Ban Meta) + เอนจินเรนเดอร์แบบเรียลไทม์ที่ขับด้วย AI

ปิดท้าย

  • คุณวินบอกว่า ใช้ AI ยังไงให้สเกลองค์กรได้ เลือกแพลตฟอร์มที่คุมได้

ต้องมีกรอบอนุมัติ-ติดตามเอเจนต์ ป้องกันการเข้าถึงข้อมูลผิดสิทธิ์

ฐานสำคัญคือ Data Security และ Governance ที่ชัด ก่อนเร่งสเกล

  1. Agent Governance
  2. Data Security
  • คุณพงษ์ บอกว่า โฟกัสคนใช้ความกลัวเชิงบวกให้เกิดการเรียนรู้-ลงมือทำคอนเทนต์ อวสานนักการตลาด ช่วยกระตุกให้ตื่นตัวและ Reskill
  • AI ไม่ได้มาแบบฉับพลัน แต่ค่อยเป็นค่อยไป เราแค่ต้องก้าวตามต่อเนื่อง