19 ธันวาคม 2568 Google ปล่อย Report ใหม่ ชื่อว่า AI Agent Trends 2026 กล่าวถึง ปี 2026 จุดเปลี่ยนไม่ใช่แค่มี AI มาช่วยตอบคำถาม แต่เป็นยุคที่ AI agents รับเป้าหมาย → วางแผนหลายขั้น → ลงมือทำงานข้ามหลายระบบให้เรา ภายใต้การคุมเกมของคนอยู่ดี แปลง่าย ๆ คือ เป็นปีที่ AI agents เข้ามาเปลี่ยนโฉม ธุรกิจแบบถึงรากถึงโคน

ได้รับการสนับสนุนจากข้อมูลเชิงลึกจากผู้บริหารระดับโลกกว่า 3,466 คน และผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ของ Google

AI-Agent-Trends-2026-Report

ภาพรวม 5 เทรนด์หลักของ AI Agent

  1. AI Agents จะช่วยให้ทุกคนทำงานได้ Productive ขึ้น
    • พนักงานจะสามารถมอบหมายงาน ให้ AI agents หลายตัวช่วยทำคนละส่วน เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย ทำให้การทำงานประจำวันเปลี่ยนจากการลงมือทำงาน Routine เอง สู่การสั่งการเชิงกลยุทธ์ ในระดับที่สูงขึ้นแทน
  2. Agentic Workflows จะกลายเป็นแกนหลักของกระบวนการธุรกิจ
    • เมื่อมีหลาย Agents อยู่ในระบบเดียวกัน พวกมันสามารถร่วมมือกัน วางคิวงาน ประสานงาน และสื่อสารกัน เพื่อทำให้งานที่ซับซ้อนและมีหลายขั้นตอนอัตโนมัติได้
    • ระบบอัตโนมัติระดับนี้ไปไกลกว่า chatbot ที่เอาไว้ตอบคำถาม เพราะ AI สามารถช่วยงานเฉพาะทางที่มีมูลค่าธุรกิจสูงกว่าได้ เช่น Salesforce และ Google Cloud กำลังสร้าง Cross-Platform AI agents โดยใช้ Agent2Agent (A2A) protocol ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการวางรากฐานแบบ open และ interoperable สำหรับยุค Agentic Enterprises
  3. Agents จะทำให้ประสบการณ์ระดับ 5 ดาว เกิดขึ้นจริงสำหรับทุกคน
    • ยุคของ Chatbot ที่ตอบตาม Script และรอลกค้ามาถามก่อนค่อยตอบ กำลังจะหมดไป ปี 2026 เราจะเห็น Agents เร่งให้การเปลี่ยนผ่านนี้เร็วขึ้น ทำให้บริการแบบ Hyperpersonalized แนว Concierge-Style กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของการสื่อสารกับลูกค้า เช่น
    • ผู้ผลิตระดับโลกอย่าง Danfoss ใช้ AI agents เพื่อทำให้งานประมวลผลคำสั่งซื้อที่มาทางอีเมลเป็นอัตโนมัติ โดยทำให้การตัดสินใจเชิงธุรกรรม (transactional decisions) 80% เป็นอัตโนมัติ และลดเวลาตอบลูกค้าโดยเฉลี่ยจาก 42 ชั่วโมง ให้เหลือเกือบเรียลไทม์
  4. AI Agents จะอัปเกรดงาน Security Operations แบบก้าวกระโดด
    • AI Agents จะเป็นตัวเสริมให้ทีม Security มีพลังและครอบคลุมมากขึ้น เพื่อตรวจจับ และ ตอบสนองต่อภัยคุกคามได้เร็วกว่าเดิม
    • Google คาดการณ์ว่า 2026 จะเป็นปีที่ AI Agents เข้ามารับงาน Security Operations ที่หนักและกินแรงที่สุด โดยทำงาน Manual อย่าง Alert Triage และ Investigation อัตโนมัติ ซึ่งจะทำให้ Human Analysts มีเวลาไปโฟกัสงานที่สำคัญที่สุดจริง ๆ เช่น การล่าภัยคุกคาม (hunting threats) และการพัฒนา defense รุ่นถัดไป
  5. บริษัทต่าง ๆ จะฝึกคนให้เป็น AI-Ready Workforce
    • การนำเทคโนโลยีและ AI ล่าสุดมาใช้ เป็นแค่ก้าวแรก เท่านั้น แต่ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุด และเป็นตัวชี้ชะตาความสำเร็จที่สำคัญที่สุด คือ คน

ตลอดปี 2026 องค์กรจะเปลี่ยนจากแค่ ซื้อ AI สู่การสร้าง AI-Ready Workforce โดยขยับจากการอบรมครั้งเดียวจบ เป็นแผนการเรียนรู้ต่อเนื่องที่ปรับตัวได้ตลอดเวลา (Adaptable, Continuous Learning Plans) โปรแกรมแบบนี้จะให้ผู้เรียนได้ฝึกลงมือจริงจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ทำให้พนักงานสร้างทักษะ AI ที่จำเป็นได้ตามจังหวะของตัวเอง และตามตารางเวลาของตัวเอง

ข้อสรุป:

ปี 2026 AI Agents จะเลิกเป็นแค่ Chatbot แล้วเป็นผู้ช่วยที่รับเป้าหมาย วางแผนหลายขั้น และทำงานข้ามเครื่องมือให้เราได้ โดยคนยังคุมอยู่

ในออฟฟิศแต่ละคนจะคุมทีมผู้ช่วยย่อย งานทั้งองค์กรจะไหลเป็นสายพานเดียว บริการลูกค้าจะจำเราได้และช่วยก่อนเราบ่น ส่วนงานความปลอดภัยจะคัดกรองเรื่องหนัก ๆ ให้เร็วขึ้น

Source:

Google Cloud, Blog Google