4 Mega Trends ปี 2025 ในยุคเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ + เข้าใจโลก, ตัวเอง, ลับฝีมือ และหาเพื่อน เร่งธุรกิจโตเร็ว 100 เท่า

หัวใจสำคัญของนักธุรกิจและผู้ประกอบการเป็นจิตใจและหัวใจ

สรุป Session: Exploring Possible Future: How to Keep Your Business Ahead of the Curve จุดประกายอนาคต ปลดล็อกแนวคิดพาธุรกิจโต จากงาน Digital SME Confernece Thailand 2025 โดยคุณ เคน นครินทร์ วนกิจไพบูลย์, CEO & Editor-in-Chief, The Standard

คุณเคน เปรียบเทียบว่า

• ปี 2024 เศรษฐกิจไทยโต 2.7% ไป ปี 2025 เศรษฐกิจไทยคาดโต 1.5% (ปีเผา)

• ปี 2024 ทุนจีนเริ่มเข้ามา ไป ปี 2025 ทุนจีนขยายตัวเพิ่มหลายเท่าตัว

• ปี 2024 GenAI ไปปี 2025 เป็น AI Agent

• ปี 2024 ESG คือ ภาระ ไปปี 2025 ESG คือ กลยุทธ์

• ปี 2024 Aging Society ไปปี 2025 Longevity Economy

ส่วนใหญ่หลายคนยกมือบอกว่า เศรษฐกิจไม่ดี ทำให้เห็นเส้นโค้ง K-Shape ชัดขึ้น บริษัทบางรายปิดตัว แต่บางรายพุ่งทะยาน คำถาม คือ อะไรคือ สิ่งที่แตกต่างระหว่างคนที่สามารถไปได้กับ คนที่เผชิญความท้าทายอยู่

ธุรกิจที่เขาสามารถพุ่งทะยานได้ มีเจ้าไหนบ้าง?

• คุณเคนได้ยกตัวอย่างกรณีศึกษาจาก เช่น

1. Flash Express พลิกกำไร เดินเกมโลจิสติกส์ด้วย AI (เจ้าของประกาศลุยนำแบรนด์จากจีนเข้าไทยใน 10 ปีข้างหน้า)
2. iberry สร้างพอร์ต 16 แบรนด์ รายได้แตะ 3 พันล้าน+
3. Suki Teenoi โตกำไรทะลุ 1,100 ลบ.
4. Karun ชาไทยพรีเมียม โต ~60% ในตลาดที่แข่งแรง
5. Chiva-Som เวลเนสรายได้ราว 1,800 ลบ.
6. Srichand เบอร์ 1 สกินแคร์ ยอดขาย ~1,600 ลบ. โต ~58%
7. 4U2 ส่งออก 11 ประเทศ รายได้ ~1,500 ลบ.
8. Her Hyness จาก 460 ลบ. (2023) เป็น ~1,000 ลบ. (2024) โตเกือบเท่าตัว
9. LA GLACE จาก 401 ลบ. (2023) เป็น ~420 ลบ. (2024) โตเล็ก แปลว่าต้องหาความต่างเพิ่ม

ทำไมบริษัทเหล่านี้เขายังเติบโตได้ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่?

• คุณเคนตอบว่า พวกเขามี MindSet, กรอบความคิดและการลงมือทำที่ ถูกที่ถูกเวลาเติบโตไปกับเทรนด์ในช่วงนี้

4 Mega Trend ปัจจุบัน

1. Wellness จุดแข็งไทยตั้งแต่แพทย์ความงาม ฟิตเนส ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ไทยติด Top 25 ของโลก เคยมีรายไดั 1 ล้านล้านบาท เติบโตปีละ 12% ในปี 2024
2. Natural IP ทรัพย์สินจากทรัพยากร+ภูมิปัญญาท้องถิ่น ลอกยาก ต้องทำให้เห็นคุณค่าในสินค้า/แบรนด์
3. Sustain ภาษีคาร์บอน/กฎ EUDR กำลังจริงจัง ธุรกิจต้องมี traceability ชัด
4. AI เป็นมากกว่าเทรนด์ และเป็นตัวเปลี่ยนเกม: ลดต้นทุน เพิ่มผลิตภาพ ขยายขีดความคิดสร้างสรรค์

Consumer Brand Disruption Cycle วัฏจักรใหม่ที่จะพลิกโลก ด้วยครับ มี 4 ข้อ

1. Rise of Chinese Challenger Brands
   • แบรนด์จีนรุ่นใหม่โตแรง: จากโรงงานรับจ้าง → ทำแบรนด์เอง คุณภาพดี ดีไซน์ชัด ราคาเขย่าตลาด ยิงออกนอกประเทศเต็มตัว
2. The Collapse of ‘Mass’ and Rise of Fragmentation
   • ผู้บริโภคแยกเป็นชนเผ่า เลือกแบรนด์ที่ตรงใจและคุณค่าเดียวกัน โฟกัสกลุ่มเล็กให้ชนะ ก่อนค่อยขยาย
3. From Advertising to Authenticity หมดยุคโฆษณา TVC
   • โฆษณา → ความจริงใจ คนเชื่อรีวิวจริง เบื้องหลังจริง Micro/Nano Influencer มากกว่างบโฆษณาใหญ่ เล่าเรื่องให้โดนใจสำคัญสุด
4. New Commerce Models: Social, Live, Direct
   • ค้าขายยุคใหม่: Social/Live/D2C แทนหน้าร้าน–โกดังใหญ่ ต้นทุนต่ำ หมุนเร็ว ลูกค้าซื้อเพราะประสบการณ์ คอนเทนต์ และการคุยกันสด ๆ

4 สิ่งที่ผู้ประกอบการควรทำ

1. เข้าใจโลก ด้วยการเลือกคลื่นที่จะเกาะ
   • จับ Mega Trends 1–2 ลูกที่เข้ากับธุรกิจเรา เป็นข้อได้เปรียบของจริง
2. เข้าใจตัวเอง
   • ด้วยสูตร 3D
     • Detect จุดแข็ง/ทรัพยากรที่มี
     • Define ความต่างที่คนอื่นไม่มี
     • Design ให้กลายเป็นสินค้า/บริการ/คอนเทนต์ที่ลูกค้ารู้สึกได้
3. ลับฝีมือ
   • Up-Reskill เรื่องที่กระทบรายได้ทันที (กลยุทธ์ การตลาด การใช้ AI การขาย/ซัพพลายเชน ฯลฯ) แล้วทดลองเป็นรอบ 30 วัน: เรียน → ลอง → วัดผล → ปรับ
4. หาเพื่อนร่วมทาง
   • โฟกัสในสิ่งที่เราถนัด แล้วจับมือพาร์ตเนอร์ที่เติมช่องว่างทักษะ ช่วย ลดความเสี่ยง เพิ่มสปีด และขยายตลาด

ข้อสรุป:

เกิดวิกฤตแล้ว ทุกคนต้องสู้ เพราะเป็นเวลาที่คนลุกขึ้นสู้จะเขียนอนาคตใหม่ให้ธุรกิจตัวเอง

Source:

สดจากงาน Digital SME Conference Thailand 2025 และดูย้อนหลัง