6 กรกฎาคม 2568 ฟิลิปปินส์กำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์นี้อย่างหนัก ข้อมูลจาก ILO บอกว่า 33% ของงานในประเทศมีความเสี่ยงสูงที่จะถูก AI แทนที่ ซึ่งหมายความว่าหลายพันคนอาจต้องหาทางปรับตัวหรือเสี่ยงตกงาน

งานไหนโดน AI แทนที่?
- งาน BPO เป็นหัวใจเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ แต่ตอนนี้ AI สามารถทำรายงานหลังสาย, บันทึกความคิดเห็นลูกค้า และบริการลูกค้าบางส่วนได้เร็วกว่ามนุษย์ คาดว่าอีก 5 ปี จะมีงานลดลงมากถึง 300,000 ตำแหน่ง
- งานฟรีแลนซ์ พอ AI เข้ามาทำให้ราคาโปรเจกต์ตกเหลือแค่ $0.01 เพราะมีคนแข่งขันเยอะขึ้น ฟรีแลนซ์ชาวฟิลิปปินส์ที่เคยได้เงินสัปดาห์ละ $200 ในปี 2017 ตอนนี้ต้องทำงานเพื่อรับเงินแค่เศษเหรียญ
- งาน Creative เช่น ออกแบบเว็บไซต์, วางโครงเรื่องสำหรับภาพยนตร์ หรืองานที่ซ้ำ ๆ ตอนนี้ AI ทำได้หมดเลย หลายคนบอกว่า งานพวกนี้หายไปแล้ว
ทำไม AI ถึงทำงานได้ดี
- Agentic AI ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ AI สามารถตัดสินใจเองได้ และทำให้งาน Call Center ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้คนอีกต่อไป

งานไหนยังปลอดภัย?
- งานที่ต้องใช้ Creative Thinking เช่น งานบริหารจัดการที่ต้องวิเคราะห์ข้อมูลและตัดสินใจ ยังคงต้องการมนุษย์ที่มีทักษะเฉพาะตัว
- งานที่ต้องใช้ Feeling เช่น พยาบาล, แพทย์, หรือผู้ดูแลคนไข้ ยังปลอดภัย AI ยังไม่สามารถเลียนแบบอารมณ์หรือความเห็นอกเห็นใจได้
- เวทีนี้ยังชี้ให้เห็นการเกิดขึ้นของงานที่ “ใกล้เคียงกับ AI” เช่น
- Quality Assurance ที่ตรวจสอบ output ของ AI ว่าผิดพลาดหรือมีอคติไหม
- Image and Text Annotators ที่ทำหน้าที่ติดป้ายข้อมูลสำหรับ Machine Learning
- Algorithm Trainers และ Data Operators ซึ่งสำคัญขึ้นในกระบวนการพัฒนา AI

อนาคตของแรงงานฟิลิปปินส์:
- ฟิลิปปินส์กำลังปรับตัว โดยการฝึกอบรมทักษะใหม่ให้กับคนทำงานที่เสี่ยงตกงาน และเตรียมคนรุ่นใหม่ให้สามารถทำงานร่วมกับ AI แต่ยังมีปัญหาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ค่าไฟแพง หรือการศึกษาที่ยัง เน้นทักษะพื้นฐาน ทำให้การปรับตัวยังเป็นเรื่องยาก
ข้อสรุป
AI กำลังเปลี่ยนโลกการทำงาน ไม่ใช่แค่ฟิลิปปินส์ แต่รวมถึงทุกประเทศ คนที่ปรับตัวได้จะอยู่รอดและเติบโตได้ ด้วยการพัฒนาทักษะที่ AI แทนที่ไม่ได้ เช่น ความคิดสร้างสรรค์, การสื่อสาร, และการคิดวิเคราะห์ พร้อมเปิดใจเรียนรู้และทำงานร่วมกับ AI จะทำให้คุณไม่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง