รายงาน Tech Trends Outlook 2025 จาก McKinsey นี้ชู 13 Trends เทคโนโลยีหน้าใหม่ที่ พร้อมพลิกเกมธุรกิจทั่วโลกด้วย AI เป็นตัวเร่งสำคัญช่วยให้ผู้บริหารตัดสินใจฟันธงได้ท่ามกลางการแข่งขันระดับโลกและเร่งให้หุ่นยนต์เรียนรู้เร็วขึ้น

Agentic AI เข้ามาช่วยวางแผนงานเอง ดังนั้นองค์กรควรโฟกัส 3 แกนหลัก (AI Revolution, Compute & Connectivity, Cutting-edge Engineering) พร้อมวางกรอบ safety, data governance, และ workforce adaptation ทั้ง 3 ด้านให้พร้อมรับมือ

หมวดที่ 1 AI Revolution สมองกล ก้าวสู่บทบาทเป็นเพื่อนร่วมงาน

นี่คือ ปีสุดท้ายที่เพื่อนร่วมงานของคุณจะเป็นมนุษย์ ปีหน้าคุณจะเริ่มมีเพื่อนร่วมงานเป็นทั้งมนุษย์และ AI

1. Agentic AI จะวางแผน-ตัดสินใจเองได้ หลายองค์กรเริ่มสร้างทีม AI คอยรัน Workflow แทนคน ลดงาน Routine เพิ่ม output เกือบ 10 เท่า แม้เม็ดเงินลงทุนยังน้อย แต่เติบโตเร็วสุดในกลุ่มเทรนด์ปีนี้ สะท้อนโอกาสปฏิวัติวงการธุรกิจ

Agentic AI ปลุกความสามารถ Virtual CoWorker ช่วยวางแผนงานเอง

  • การลงทุนด้าน equity มูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐใน agentic AI ที่เกิดขึ้นใหม่และน่าจับตามอง ในปี 2024
  • มีการประกาศรับสมัครงานที่เกี่ยวข้องกับ agentic AI จากปี 2023 ถึง 2024 เพิ่มขึ้น +985%

2. Artificial Intelligence คลื่นลูกใหญ่ที่ขยายพลังให้เทรนด์อื่น ไม่ว่าจะเป็นการสรุปข้อมูล, เขียนโค้ด, สร้างภาพ กลายเป็นฟีเจอร์พื้นฐานของทุก Product จึงเป็นหัวใจของการเปลี่ยนแปลงทั่วทั้งธุรกิจ

ความสนใจ AI เพิ่มมากขึ้น แต่ช่องว่าง เงิน-คน-เทคโนโลยี ยังเปิดอยู่ ดังนั้นรีบลงทุนและเร่ง reskill ทีมตอนนี้ ยังมีโอกาสนำเกมก่อนตลาดอิ่มตัวเต็มสเกลครับ องค์กรที่ embed AI ใน workflow เห็น Productivity พุ่งกว่าเดิม 30% ภายในปีเดียว ทำให้การตัดสินใจและนวัตกรรมเกิดเร็วขึ้น ลดขั้นตอนมนุษย์หลายสิบขั้น

หมวดที่ 2 Compute and Connectivity Frontiers

3. Application-specific semiconductors

  • ชิปเฉพาะทาง เน้นพัฒนา AISC เพื่อรองรับ AI ที่ต้องการ Compute สูง โตสวนตลาด PC ใครควบคุมซัพพลายเชนชนะเกม AI มีบริษัท Big Tech ระดับโลกต่างพัฒนา AISC เช่น Nvidia, Amazon Web Services (AWS), Google, Microsoft, Meta เป็นต้น

4. Advanced connectivity

  • เครือข่าย 5G, ดาวเทียมดาวน์ลิงก์, Wi-Fi 7 และอื่นๆ ผสานความเร็วสูง-หน่วงต่ำ ช่วยสนับสนุนการเชื่อมต่อที่แม่นยำทั้งในเมืองและพื้นที่ห่างไกล ธุรกิจที่ต้องการ edge use cases ควรจับตา roadmap เครือข่ายเหล่านี้

5. Cloud and edge computing

  • บริการคลาวด์ผสานกับ Edge, ลงทุนใน virtualization, serverless, containers และ IoT เพื่อประหยัดต้นทุน-เวลา ตอบโจทย์งานที่ต้องการ latency ต่ำและความยืดหยุ่นสูง

6. Immersive-Reality Technologies

  • แว่น AR/VR รุ่นใหม่บาง-เบาขึ้น สวมใส่ง่าย กำลังถูกจับตาว่าไม่ใช่แค่เกม แต่ใช้ในฝึกอบรม การตลาด และการจำลองสถานการณ์เสี่ยงสูง ให้ประสบการณ์สมจริงขึ้นด้วย AI ใช้ฝึกจำลองสภาพแวดล้อมจริง หรือออกแบบผลิตภัณฑ์ก่อนผลิตจริง เพื่อลดค่าใช้จ่ายและเวลา prototyping ได้มหาศาล

7. Digital trust and cybersecurity

  • ระบบยืนยันตัวตน การปกป้องข้อมูล และ Blockchain ช่วยสร้างความเชื่อมั่น ยิ่ง AI แทรกซึมมากขึ้น ยิ่งต้องตั้งรับภัยไซเบอร์ด้วย AI trust และ tokenization เพื่อปกป้องแบรนด์และลูกค้า

8. Quantum technologies

  • Quantum พัฒนาเพื่อแก้โจทย์เฉพาะ เช่น การถอดรหัสและวิทยาศาสตร์วัสดุ แม้ยังรอให้ใช้เชิงพาณิชย์ จนถึงปีนี้ 34 ประเทศตั้งโครงการระดับชาติ สะท้อนแรงกดดันให้นักลงทุนจับตา

หมวดที่ 3 Cutting-edge engineering

9. Future of robotics

  • หุ่นยนต์หลากรูปแบบทั้งในโรงงาน ร้านค้า และร้านอาหาร เริ่มใช้ foundation models ควบคุมพฤติกรรมจริง และมีความท้าทายเรื่องแบตเตอร์รี่และความปลอดภัย แต่หุ่นยนต์ก็ขยายบทบาทได้อย่างรวดเร็ว

10. Future of mobility

  • ยานยนต์ไร้คนขับ, EV, Drones และ Air Taxis กำลังเข้าใกล้การใช้งานจริง ต้องสอดคล้องกฎระเบียบ-โครงสร้างพื้นฐาน-ภาพลักษณ์สาธารณะ แต่เมื่อปรับ Scale สำเร็จ จะเปลี่ยนเมืองและระบบพลังงานครั้งใหญ่ ตลาด service robots โตปีละ 20–35% จากแรงงานขาดแคลน

11. Future of bioengineering

  • การรวมกันของวิศวกรรมและชีววิทยา โดยมี AI เป็นตัวขับเคลื่อน ลดต้นทุนผลิตยา–อาหารลงก้าวกระโดด ช่วยเปิดทางรักษาโรคยากให้เป็นไปได้จริง เหมาะกับ biotech startups ที่พร้อมลุย R&D ร่วมกับเครือข่ายวิจัย

แต่ยังมีคำถามเรื่องกฎหมาย ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และความเสี่ยงด้านชีวภาพ ที่ต้องบาลานซ์ผลประโยชน์กับความปลอดภัย

12. Future of space technologies

  • พวกดาวเทียมขนาดเล็ก, การส่งเชื้อเพลิงในวงโคจร และ 5G from space ช่วยลดต้นทุนการส่งขึ้นอวกาศถึง 70% และขยายบริการทั่วโลก แต่ต้องจัดการมาตรการควบคุมสเปกตรัมและภัยไซเบอร์ด้วย

13. Future of energy and sustainability technologies

  • ความต้องการพลังงานสะอาด–แบตเตอรี่–smart grid–ไฮโดรเจนสีเขียว และกังหันลมเป็นกลุ่มหลัก รับมือความผันผวนของพลังงานและเป้าลดคาร์บอน ช่วยเรื่อง ESG และลดต้นทุนระยะยาว แต่ก็เจอข้อจำกัดเรื่องวัสดุและโครงสร้างพื้นฐานที่ต้องลงทุนเพิ่ม ดังนั้นควรลงทุน R&D ร่วมกับผู้ผลิตวัสดุต้นน้ำ เพื่อใช้เทคฯ ใหม่ให้ได้ไวกว่าใคร

ข้อสรุป:

13 เทรนด์ใหม่ ตั้งแต่ AI ทำงานแทนคน, Agentic AI, ชิปประหยัดพลัง ไปจนถึงหุ่นยนต์และพลังงานสะอาด ผู้บริหารเลือกเทรนด์เทคโนโลยีที่สอดคล้องกับกลยุทธ์องค์กร ลงทุนโครงสร้าง AI และดูแลเรื่องข้อมูลให้มั่นคง พร้อมปรับทักษะทีมให้รองรับอนาคต เพื่อก้าวทันการแข่งขันโลก บริหารความซับซ้อน-ขยายโซลูชันใหม่ และสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าและผู้มีส่วนได้เสีย

Source:

MCKinsey, Techsauce, Generative AI of Everything