การเปลี่ยนแปลงของ AI ในปีที่ผ่านมาเป็นปรากฏการณ์ที่น่าตื่นเต้น โดยเฉพาะการก้าวจาก Generative AI สู่ Agentic AI สะท้อนถึงความก้าวหน้าที่รวดเร็วในวงการนี้ แม้ว่า เรายังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง เพราะโลกเพิ่งขยับมาถึง Level 3 Agentic Workflow ทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI จะเป็นหัวใจสำคัญในอนาคต

สรุป Session: AI x Talent จากงาน People Performance Conference 2025 โดยคุณกระทิง เรืองโรจน์ พูนผล

การเปลี่ยนแปลงของ AI ในปีที่ผ่านมาเป็นปรากฏการณ์ที่น่าตื่นเต้น โดยเฉพาะการก้าวจาก Large Language Model สู่ Agentic AI ซึ่งสะท้อนถึงความก้าวหน้าที่รวดเร็วในวงการนี้ อย่างไรก็ตาม เรายังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น เพราะโลกเพิ่งขยับมาถึง Level 3 ของ AI Evolution หรือ Agentic Workflow การทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI จะกลายเป็นหัวใจสำคัญในอนาคต

5 Levels ของ AI

เลเวล 0 Manual Operation หรือ Human Only Level

เลเวล 1 Rule-based Automation

เลเวล 2 Intelligent Automation

เลเวล 3 Agentic Workflow

เลเวล 4 Autonomous Agents

เลเวล 5 Fully Autonomous Agents

Agentic AI สู่ Physical AI

1. สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปข้างหน้า ในงาน GTC 2025 คือ เปลี่ยนจาก Agentic AI สู่ Physical AI หรือ General Robotics เป็น Polyfunctional Robot

2. โลกเปลี่ยนจาก Knowledge Economy สู่การ commodity เข้าด้วยกัน และคำว่า Trust เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เป็น Fundamental ของทุกสิ่ง มีเยอะก็จะชนะในยุคหน้า

3. องค์กรในยุคอนาคตจะไม่เหมือนอดีตอีกต่อไป CEO จะไม่ได้มีเพียงมนุษย์เป็นพนักงานเท่านั้น มี AI Agent ที่ช่วยบริหารและตัดสินใจได้เหมือนพนักงาน

4. คุณกระทิงเล่าว่า หลักการนี้จะได้ใช้เสมอ (Rule of Engagement) สำหรับ AI กฎในการใช้งานมีดังนี้

สำหรับ AI กฎในการใช้งานมีดังนี้

  1. เอา AI มาร่วมวงเสมอ
    (คือไม่ว่าจะทำอะไร คิดอะไร ประชุมอะไร ต้องมี AI อยู่ในภาพด้วย)
  2. แต่ต้องมี “มนุษย์อยู่ในวง” ตลอดนะ
    (และต้องเป็น “มนุษย์ที่เก่งที่สุดในวงนั้นด้วย”)
  3. ตั้งบทบาทให้ AI เป็นเพื่อนร่วมงานของคุณ
    (ไม่ใช่ให้ AI คิดเองทั้งหมด หรือไม่ใช้มันเลย)
  4. จำไว้นะว่า… AI ที่คุณใช้อยู่ตอนนี้ จะเป็น AI ที่แย่ที่สุดที่คุณจะเคยใช้ตลอดชีวิต
    (เพราะอนาคตมันจะเก่งขึ้นเรื่อย ๆ)

5. คุณกระทิงเล่าจุดเริ่มต้นของการ Transformation ใน กสิกรไทยว่า KBTG Transformation เริ่มทำตั้งแต่ ปี 2019 และมาปี 2023 KBTG มาเริ่มทำ AI Transformation ด้วยแนวคิด MaD ย่อมาจาก Machine Learning, AI, Data เพื่อทำให้เกิด AI First ให้ได้

ก่อนจะถึงตรงนั้นเราต้องเป็น Human-First มนุษย์มีแค่ 2 คน

1. คุณทำปึบ แล้วลูกค้าได้อะไร

2. Employee ทำไปปึบแล้ว ทีมงานได้อะไร? ไม่ใช่แค่เอา AI มายัดใส่เข้าไปเป็น AI First Transformation

ผล คือ ทำแล้วเริ่มเห็นผล พนักงานเริ่มมีความสุข Happy ปีที่แล้วพนักงานลาออกแค่ 7% Engagement เพิ่มขึ้น อัตราการลาออกลดลง Productivity เพิ่มขึ้น 2 เท่า

6. คุณกระทิงบอกต่อว่า AI-Driven Transformation หรือจะใช้ชื่ออะไรก็ตาม 70% จะ Fail เพราะคุณโฟกัสกับ Tools มากเกินไป สิ่งสำคัญในการโฟกัสคือ Human, Transformation มันคือ Human-Centered ฝังเข้าไปใน Business Strategy ประโยคนี้เป็นประโยคที่สำคัญที่สุดครับ

7. บางครั้งการ Transofrmation จะ Fail เพราะ Ambition น้อย สิ่งสำคัญในการทำ Transformation คือ

– Talent (Unlearn Relearn Transform) และ Culture Transformation

ดังนั้น Leader ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง เป็นหนทางสู่ Leader is Culture ที่คุณอยากให้องค์กรคุณเป็น Learning Organization ก็ต้องมี Launch Culture เพิ่มเติมด้วย

8. องค์กรทำ Transformation ถ้า Strategy เปลี่ยน แต่ Culture ไม่เปลี่ยนไม่ได้ เพราะ Culture เปรียบเหมือนมาม่า ทิ้งไว้นานไม่ Lean เส้นจะอืด

คุณกระทิงเน้นย้ำถึง 3 คำนี้

1. Strategy

2. Structure

3. Culture

ถ้า Strategy ดี แต่ Structure, Culture ไม่ดี คุณ Executed ไม่สำเร็จ

– Strategy Structure ไม่ดี องค์กรมันจะฝืน มันจะฝืด เหมือนโครงสร้างผิด

– แต่ถ้า Structure ดี Culture แย่เกิดอะไรขึ้น? คนจะออกหมดไม่มีใครอยู่

9. คุณกระทิงกล่าวว่า เราจำเป็นต้องเปลี่ยนจาก Job-Based Organization สู่ Skill-based Organization คือ เปลี่ยน Role ออกมาเป็น Mapping ระหว่างทางกับ Skill ส่วน Task บางอัน ให้ AI ทำงานแทนคน ให้มนุษย์ทำเฉพาะ Skills ที่มันไม่ Automatable

Talents ต้องมีการ Adaptability, learnability และ Mental Agility สู่การเติบโตในองค์กร

คุณกระทิงพูดถึงประเด็นที่สำคัญมากที่สุด ที่องค์กรต้องเตรียมตัวให้พร้อม ก่อนที่องค์กรจะถูก Disruption นั่นคือ โลกจะหักศอก ปี 2024-25 เปลี่ยนเร็วมาก ปลายทศวรรษนี้จะหักศอก สิ่งที่เกิดขึ้น คือ Complete Overhaul World Economy

10. ในอีก 10 ปีข้างหน้าจะเป็นวิกฤต Workforce Transformation ในรอบ 100 ปีนะครับ What Got You Here Won’t Get You There

ดังนั้นคุณต้องอยู่ Day 1 MindSet เสมอ Always Stay One นี่คือ Day One ของการ Transformation เริ่มต้นจากตัวคุณเสมอ

คุณกระทิงบอกเป็นประโยคสุดท้ายว่า You must be the change you wish to see in the world คำพูดจาก Mahatma Gandhi

คุณคนเดียวจะทำอะไรไม่ได้มาก แต่เมื่อคุณผนึกพลังคนร่วมกัน คุณเป็นองค์กร คุณเป็นทีม, เป็น Community, เป็นตัวอย่างที่คุณอยากเห็นในโลกนี้ได้นะครับ

ข้อสรุป:

Transformation ทุกครั้ง เริ่มจาก Fundamental, Foundation เสมอ และจำไว้ Transform ไป ลูกค้าได้อะไร พนักงานได้อะไร หากเข้าใจตรงนี้องค์กรจะไม่เดินหน้าผิดทาง

Source:

People Performance Conference 2025, Longtunman