7 พฤศจิกายน 2568 Gartner ออกบทความใหม่ อีก 2 ปีข้างหน้า CIO และผู้บริหาร Tech ส่วนใหญ่คาดว่า คำว่า ความสำเร็จ จะถูกนิยามกันใหม่ เข้าถึงกลยุทธ์กล้าได้กล้าเสียและลำดับความสำคัญของเพื่อนร่วมวงการ มี

  • 94% ของ CIO ทั้งหมด คาดว่าจะมีการ เปลี่ยนแผนใหญ่ ภายในปี 2026
  • 70% ของประเทศจะมีกฎหมายอธิปไตยข้อมูลแบบเข้มขึ้นภายในปี 2030
  • โครงการดิจิทัล ถึงหรือเกินเป้าหมาย มีเพียง 48%
  • 57% ถูกกดให้เพิ่มผลิตภาพ
  • 52% ถูกกดให้ลดต้นทุน

Gartner ได้ค้นพบกลยุทธ์ที่กำลังกำหนดอนาคตของ IT รวมข้อมูลและกลั่นกรองจาก CIO 2,500 คน ที่ดูแลงบรวมทั่วโลก $274B จัดลำดับความสำคัญของคุณ เทียบมาตรฐาน เสริมความร่วมมือกับ C-suite และเอา Insight ที่ทำได้จริงไปขับเคลื่อนผลลัพธ์ นั่นคือ A.R.T. Framework

A.R.T. Framwework กรอบคิดเอาไว้นำทีมให้ ไปถึงเป้าหมาย เพื่อยกระดับภาวะผู้นำ และขับเคลื่อนผลลัพธ์เชิงกลยุทธ์

  1. Agility (คล่องตัว): กล้าปรับลำดับงานกลางคัน ตัดที่ไม่คุ้ม ดันที่ได้ผล ทำให้ Agentic AI ได้ ROI
    • จะพัฒนาให้ ปรับลำดับความสำคัญได้คล่องตัว ยังไง
      • แบ่งสรรทรัพยากรแบบ “ไหลลื่นตลอดเวลา”
      • กล้าตัดงานที่ ไม่เวิร์ก/ไม่ตรงกลยุทธ์ และสร้างแนวร่วมข้ามทีมเพื่อลดแรงต้าน
      • ทำฉากทัศน์ แบบเอาไปใช้จริง ไม่ใช่แค่ซ้อมนึก เห็นสัญญาณแล้ว ขยับก่อนโดน
  2. Risk-readiness (พร้อมเสี่ยงอย่างมีสติ): มองเกมภูมิภาค-กติกาข้อมูลตั้งแต่เลือก Vendor จัดพอร์ตให้ตรงบริบทภูมิภาค/กติกาข้อมูล
    • จะเป็น คนจัดการความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ให้เสี่ยงน้อยลง ได้ยังไง
      • ผสมพอร์ต Supplier ใหม่: ชั่งน้ำหนัก Vendor ท้องถิ่น (Compliance/ยืดหยุ่น) vs Vendor ระดับโลก (สเกล/ความสามารถขั้นสูง)
      • ให้ความสำคัญกับ ทีมซัพพอร์ตในพื้นที่จริง ใส่เงื่อนไขนี้ในเกณฑ์คัดเลือกเพื่อลดความเสี่ยงเชิงปฏิบัติการ
  3. Tenacity (กัดไม่ปล่อยผลลัพธ์การเงิน): โฟกัส KPI ที่แปลงเป็นรายได้/ลดต้นทุนจริง ตัดสินใจตาม trigger เหตุการณ์จริง
    • จะเป็นคนลงมือทำแบบกัดไม่ปล่อย มอบงานให้ถึงเป้าหมายได้ยังไง
      • จัดลำดับงานที่กระทบผลลัพธ์สูง และ “ผูกมือผู้บริหารชุดใหญ่” ให้หนุนเวลาเจอตัดสินใจยาก ๆ
      • อย่าแค่ประสิทธิภาพ ต้อง แปลงเป็นเงิน ทั้งลดต้นทุน/เพิ่มรายได้ ด้วยการรีดีไซน์กระบวนการและทีม
      • ปรับกลยุทธ์ซัพพลายเออร์บริการด้วย AI-sourcing ดึงงานที่เคยจ้างไกลกลับมาทำเอง เพื่อลดต้นทุน 5–30% และเพิ่มความคล่องตัว

สถานะการนำเทคเกิดใหม่มาใช้

  1. ภาพรวม: AI/GenAI ไปไกลแล้ว และกำลังขยายไปสู่ Agentic AI
  2. เทคอื่น ๆ ที่เริ่มถูกพูดถึง/วางแผนใช้: Industry cloud, Edge, SASE, Low-code, Multimodal Experience ฯลฯ

คิดใหม่เรื่อง Vendor Strategies ให้สอดรับกับบริบทภูมิภาค

  1. ผู้บริหารเทคส่วนใหญ่จะทบทวนพอร์ต strategic technology vendors ระดับโลกกันใหม่ โดย 50% ของ non-U.S. CIOs และผู้บริหารเทคโนโลยีคาดว่าจะปรับวิธีทำงานกับ vendors ตามปัจจัยในภูมิภาค
  2. องค์กรที่ U.S.-based น่าจะปรับความสัมพันธ์กับ core vendors แค่น้อยมาก
  3. การตัดสินใจเรื่อง vendor strategy จะถูกกำหนดโดยความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนไปกับ market dynamics

เสริมความยืดหยุ่นในการตัดสินใจ

  1. ผู้บริหารเทคต้องเก่งขึ้นในเรื่อง off-cycle reprioritization, risk management และ scenario planning เพื่อเพิ่มโอกาสทำ value targets ให้ถึง
  2. 64% ของ CIOs คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงระดับปานกลางถึงมาก ต่อผลลัพธ์ที่วางแผนไว้ ภายใน 24 เดือน ข้างหน้า
  3. แรงกดดันเรื่อง productivity ให้ดีขึ้น ต้นทุนให้ต่ำลง และโตแบบทำกำไรได้ ยังอยู่เหมือนเดิม แถมแรงขึ้นกว่าเดิม—ที่หนักในปี 2025 แล้ว ปี 2026 จะยิ่งหนักกว่าเดิมอีก

ข้อสรุป:

ปี 2026 อาจต้องเปลี่ยนทิศไว จัดลำดับงานใหม่ตลอด และเอาผลลัพธ์จริงเป็นตัวตั้ง ใช้กรอบ A.R.T คล่องตัว รับมือความเสี่ยง กัดไม่ปล่อยจนถึงฝั่ง รวมถึงเลือกทำ Agentic AI ที่ทำเงินหรือลดต้นทุนชัด เลือกพาร์ตเนอร์ให้เหมาะภูมิภาค เน้นซัพพอร์ตในพื้นที่ แนะนำว่า ผู้บริหารให้ตัดสินใจเร็ว วัดผลรอบสั้นแล้วขยายสิ่งที่เวิร์ก เพื่อพลิกวิกฤตเป็นโอกาส

Source:

Gartner