ถ้า AI ทำให้คุณตกงานวันนี้ พรุ่งนี้คุณอาจขาย AI innovation เป็นอาชีพ เพียงมองเป็นโอกาส ไม่ใช่ภัย

สรุป Session: Leading your marketing team in the age of AI จากงาน Marketing Conference 2025 โดย

  1. คุณตูน สุธีรพันธุ์ ลักรวัตร, SCB10X
  2. คุณโย่ ภคมน ตุลยาพิศิษฐ์ชัย, Heygoody, เงินติดล้อ
  3. คุณโจ้ ฉวีวรรณ คงโชคสมัย, Moderator

Session นี้เกี่ยวกับการบริหารทีมและการตลาดที่มี AI เข้ามาเกี่ยวข้อง

  • คุณโจ้ถามคำถามทั้งหมด 4 คำถาม

1. คุณโจ้ถามคุณตูนว่า ที่ SCBX ใช้ AI กับการตลาดด้านไหนบ้าง?

  • คุณตูนตอบว่า บทบาทที่ SCBX เหมือนยานแม่ ดูแล 12 บริษัท (กำลังเพิ่มเป็น 13) และมองการขับเคลื่อน AI แบบทั้งกลุ่ม ไม่ใช่รายแผนกเดี่ยว ๆ เช่น

สร้าง Content ด้วย Agentic Content มีเว็บสำหรับแชท และ Pipeline บน Make.com

ฝั่ง Writer

  1. ป้อนโจทย์: Content Topic + Target Audience → ส่งไปที่ Gemini ให้รีเสิร์ช > ส่งต่อ Agent จัดโครงสร้างการเขียน วาง Chapter/Structure
  2. มี นักเขียน AI 5 ตัว เลือกโทนได้ (เช่น ลงทุนแมน, EIC/economist tone, Gen Z, Claude, ไทยรัฐ)
  3. วัดผลด้วย Impact × Feasibility ว่า ถ้าต่ำกว่า 8 ให้ Rewriter เขียนและจัดใหม่ จากนั้นทำ SEO specialist agent ใส่คีย์เวิร์ด/แท็ก → Editor เกลาความเป็น SEO-friendly

ฝั่งภาพ

  1. Prompt-Image Agent สร้าง Prompt สำหรับ Midjourney/DALL·E/ Stable Diffusion

ฝั่งโพสต์:

  1. Social Agent เขียนแคปชันสำหรับ FB/LinkedIn/X/IG/TikTok
  2. ส่งงานเข้าอีเมล พร้อมลิงก์ไฟล์ ครบทั้งบทความ/หัวเรื่อง/คีย์เวิร์ด/แคปชัน/ไอเดียภาพ

ผลลัพธ์ คือ คุณภาพของ Content ดีราว 50% อีก 50% ต้องมีมนุษย์ปรับต่อ เพื่อให้ได้มาตรฐานงานจริง

คุณตูนเน้นข้อมูลที่สำคัญว่า องค์กรจะไม่ถามว่า มีลูกน้องกี่คน แต่จะถามว่า มี AI agents กี่ตัว ที่ทำงานจริงในสายงาน

Pain point เชิงองค์กร ที่ทำให้ AI ไปต่อไม่ได้ คือ ไม่มี No AI Vision, No Senior Sponsorship, Lack of AI Literacy, CAPEX ขาด, No Collaboration จึงต้องแก้ให้ครบเป็นระบบ

2. คุณโจ้ถามว่า ในทีมมีช่องว่าง AI literacy ต่างกัน จัดการอย่างไร

  • คุณตูนตอบว่า ผู้ใช้ AI ในไทย มีตั้งแต่คนที่ใช้รู้ตัวและมองบวก ไปจนถึงกลุ่มที่สงสัยระแวง (skeptical) และกลุ่มที่แทบไม่ใช้เลย จึงบริหารแตกต่างตามโปรไฟล์ ด้วยแนวคิด “บังคับใช้แบบมีทางเลือก” โดยเปิดโอกาสให้ลองจริง มีเครื่องมือและเวทีให้โชว์ผลลัพธ์ เพื่อสร้างคนต้นแบบ ลดแรงต้าน และทำให้ความรู้กระจายไปทั้งองค์กร
  • คุณโย่ตอบว่า ปรับโครงสร้างทีมให้ “สิทธิ์ + งบ” กับทีมเข้าถึงเครื่องมือ เช่น ChatGPT, Claude (premium), Canva/PowerPoint ส่วนสาย UX/UI ใช้ Lovable ผ่าน Prompt จาก ChatGPT → ปั้นโปรโตไทป์ UI ภายใน 3–4 นาที ช่วยให้นักการตลาดกับดีไซเนอร์คุยภาษาเดียวกันเร็วขึ้น
  • จากนั้นทุกทีมจะวัดผล Impact × Feasibility ด้วย AI literacy Roadmap ทั้งองค์กรและ ดันระดับขึ้นอย่างต่อเนื่องแบบข้ามแผนก

ผล คือ จาก Creative ที่ใช้ AI ได้ → เป็น AI Creative (ต้องใช้ AI เท่านั้น) และรับคน ที่มีประสบการณ์ใช้ AI เข้ามา พร้อมตั้ง AI Solution Engineer ประกบทีมที่ยังใหม่

  • คุณโย่เสริมว่า วัฒนธรรมทดลองจริงด้วย AI Hackathon ปีนี้บังคับมีต้องรับผิดชอบทำให้สำเร็จต่อหลังจบงาน ไม่ใช่งานประกวดแล้วจบ

3. คุณโจ้ถามว่า มีตัวอย่างใช้ AI กับลูกค้าจริง ที่วัดผลได้ชัดเจนไหม?

  • คุณโย่ตอบว่า กรณีศึกษาที่ชัด คือ การขายประกันผ่าน LINE ภายใต้โจทย์ “ไม่อยากให้ลูกค้ากรอกฟอร์มเลย” จาก Hackathon เราทำให้ลูกค้าดำเนินการทุกขั้นตอนจน “จ่ายเงินสำเร็จ” ได้ภายใน 2 นาที ไม่ว่าจะซื้อ 1 หรือ 10 คน
  • คุณโย่ย้ำมุมคิดว่า การทำ Project สำเร็จได้นี้ ให้เริ่มจากมอง pain point จริงก่อนเสมอ แล้วถามว่าควรใช้ AI จริงไหม หรือบางครั้งแค่แก้ Process เดิมก็พอ

4. อนาคตการบริหารทีมที่มี AI เป็นเครื่องมือหลัก เราจะ ‘วัดผล’ คนอย่างไร?

  • คุณโย่ตอบว่า ให้รางวัล Smart work มากกว่า ทำเองทุกบรรทัด
  • และประเมิน การใช้ดุลยพินิจว่า รู้จักรีวิวสิ่งที่ AI สร้าง, เติมบริบทธุรกิจ, กล้าลอง–กล้าล้ม–เล่าให้ทีมฟัง ให้คกลายเป็นการเรียนรู้ของทั้งทีม
  • คุณตูนตอบว่า วัดผล 2 มิติ
    • Business Outcomes ที่จับต้องได้: รายได้/Conversion uplift, Cost reduction
    • Efficiency/Resilience: NPS/CSAT, Fraud, Crisis/Brand reputation, Speed to respond
  • Domain expertise ยังจำเป็น เพราะคนต้องเป็นเจ้านาย AI เลือก/ตัดทิ้ง/เติมความเห็น/ประสบการณ์
  • คุณตูนพูดอีกอย่างว่า ถ้าตกงานเพราะ AI วันนี้อาจลุกไปสร้าง AI innovation แล้วขายให้ตลาด ได้ โดยมองเป็นโอกาส ไม่ใช่ภัย

ข้อสรุป:

มนุษย์ยังสำคัญทั้งเรื่อง Domain, judgement, creativity คือ จุดต่างที่ทำให้ทีมชนะ AI ไม่ใช่แพ้ AI

Source:

สดจากงาน Marketing Conference 2025