สรุป Session: Finding your Role Alongside AI: Discovering Your Unique Edge ของงาน KBTG Techtopia 2025 เวที Community Circle โดย
- คุณภัทรภูมิ เติงจันต๊ะ เจ้าของเพจ Prompt Alchemist
- คุณโชค วิศวโยธิน เจ้าของกลุ่ม AI เพื่อธุรกิจและสังคม และ CEO The Magic Wand AI
วันนี้ Speakers ทั้ง 2 เล่าเรื่อง AI มาแทนคนและ คนไม่ใช้ AI จะถูกแทนที่โดยคนใช้ AI ไม่ว่าคุณจะใช้หรือไม่ใช้ AI ถ้า AI ใช้แล้วผลลัพธ์ดีกว่าคนทำ
- คุณโชคอธิบายว่า วัตถุประสงค์ AI ถูกประดิษฐ์ขึ้น เพื่อทดแทนการตัดสินใจของมนุษย์, ทดแทนกระบวนการของมนุษย์ สิ่งสำคัญคือ มองข้าม Shot หากแทนแล้ว มนุษย์ทำงานอยู่ตรงไหน?
- คุณภูมิพูดติดตลกว่า เผาตัวเองก่อน เพื่อจะหนีจากการโดนแทนที่ด้วย AI เมื่อก่อน AI บางขั้นตอนยังไม่สามารถทำงานได้ดีเท่ามนุษย์ แต่พอถึงทุกวันนี้ ทำได้หมด
คุณภูมิยกตัวอย่างการสร้างภาพ ต้องเตรียม
- นายแบบ/นางแบบ
- กล้อง
- ช่างภาพ
- สินค้า
- ชุดไฟ
แต่การถ่ายทำแบบนี้ ใช้เวลาถ่าย 1 วัน อยู่ดี ๆ ผ่านมาสักเดือน 2 เดือน มี AI Editing คนที่ตายก่อน คือ คนใช้ Photoshop ก็สามารถสร้างภาพเพียงไม่กี่วินาที
คุณภูมิแสดงภาพตัวอย่าง การต่อ ComfyUI ทำให้คนที่นั่งฟังทราบว่า อุปกรณ์ที่ใช้ในการถ่ายทำ ไม่มีประโยชน์ เมื่อเรามีแอพฯ ทำได้สำเร็จรูปและภาพถ่ายเท่านั้น ใช้เวลาเพียง 4 – 5 วินาที
เอา Nano banana มาลองใช้กับ Wan 2.2 Fun Control
- คุณโชคพูดต่อว่า เราโยน Object และเจน Prompt ด้วย AI ตัวอื่น และปล่อยให้ AI ทำงานเอง
โฆษณาสินค้า โดยใช้เพียงแค่ภาพและ AI
- คุณภูมิ ยกตัวอย่าง โฆษณาสินค้าอย่าง Lactasoy 5 บาท 125 มล. พูดว่า เด็กตกงาน เจนภาพสร้างขึ้นมาได้เลย และกำหนด องค์ประกอบของภาพโฆษณาต่าง ๆ ด้วย AI เรื่องนี้ทำให้เกิดแนวคิดว่า คนที่จะมาถ่ายโฆษณา ก็รู้สึกเสียดายอัตลักษณ์
- คุณโชคบอกว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นแล้วใน Hollywood ประท้วงว่า เริ่มมี Studio บางอัน เอา GenAI มาทำ นักแสดงบางคนรู้สึก Fail สูญเสียอัตลักษณ์ มา 2- 3 ปี และจบลงด้วยการใช้เงินมาแก้ปัญหา เพื่อจบการประท้วง
- คุณภูมิเล่าว่า เมื่อก่อนต้องมี VFX, Compositing, 3D Tracking, 3D Animation -> New (Minutes) AI Image, AI Video ทุกอย่างทำได้ โดยไม่ต้องเตรียมอะไรเยอะ และสร้างผลงานในเวลาไม่กี่นาที
- คุณภูมิบอกว่า เราต้องทำอะไรใหม่ ๆ ในสิ่งที่ AI แทนที่ไม่ได้ ใช้ AI ทำท่าทางแทน และที่เหลือ AI ทำแทนได้ เช่น ลองทำสิ่งที่เคยทำยาก ทำการ์ตูนพิณอีสาน หากวาดไม่เก่ง เราทำท่าทางให้เห็นภาพ และต่อยอดด้วยการ วาดภาพ, ออกแบบเสื้อให้นางแบบ นายแบบโดยวาดภาพเป็น Sketch ให้สวยงามและ ให้ AI เจนเองภายในไม่กี่นาที
คุณภูมิเสริมว่า อะไรที่ทำได้ ให้ AI ทำไปเลย
- คุณโชคบอกว่า ทำ Pre-Order ขายเสื้อครบ 100 ตัวถึงจะทำ สิ่งเหล่านี้สามารถทำธุรกิจได้เลย เราสามารถขายของได้โดยมีผู้ซื้ออยู่แล้ว
มีโอกาสในสิ่งที่ไม่เคยได้ทำมาก่อน
- คุณภูมิบอกว่า เขาได้มีโอกาสทำ AI QR Code Generator โดยให้ AI Vibe Coding ตอนที่เขาทำ เขายังต้องพึ่ง Developer ไม่อย่างนั้นตอน Deploy เสร็จ จะมีปัญหา
ความหมายของ Vibe Coding
- คุณโชคเล่าว่า Vibe Coding เป็นคำที่เทพ Programmer คิดขึ้นมาว่า เขียน ๆ ลงไปว่า อยากทำแอพอะไร ตรวจแล้วคร่าว ๆ โอเค ก็เสร็จแล้ว ประเด็น คือ ฮือฮาแล้วคนก็เข้ามาใช้กันเยอะ
- เหตุที่คนใช้เยอะ คือ ไม่มี No-how หรือ Skill Developer รวมถึงต้องเอา Secret key, API Key หากเราเอาไปใช้ไม่ถูก ไม่อย่างนั้นเผยแพร่สาธารณะ คนอื่นเอาไปใช้ต่อได้
- คุณโชคพูดสรุป Vibe Coding ว่า สิ่งนี้เหมาะกับการทำ Prototyping, ทดลองไอเดีย หาก OK แล้ว ค่อยเรียก Developer มาเพื่อตรวจก่อน Deploy
- คุณโชคเล่นมุขว่า Vibe Coding ตัว S ใน Vibe Coding มาจากคำว่า Security เพราะ มันไม่มี Security, Scalability Vibe coding ถูกสร้าง ถูกใช้ เพื่อทดสอบ Business Idea
เราจะหาพื้นที่ยืนอยู่ในโลก AI ได้อย่างไร
- คุณภูมิมีจุดมุ่งหมาย มีไอเดียที่อยู่ตรงนั้น เราจะหาพื้นที่ยืนของเราแต่ละคน ในโลกของ AI ได้อย่างไร ถ้า AI เป็นเครื่องมือ, เหมือนรถ คนที่จะไปให้ถึงเป้าหมาย คนที่กำหนดเป้าหมายคือเรา แล้วเราก็ต้องขับรถเป็น
- คุณโชค นำเสนอว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ คือ ของประกอบ จะถูกแทนที่เกือบทั้งหมด อะไรคือของประกอบ เช่น
- ถ้าสมมุติคุณเข้าไปแกลอรี่แสดงภาพ มีเพลงประกอบ เพลงประกอบโดนแน่นอน
- ถ้าคุณเป็นศิลปิน ร้องเพลงคอนเสิร์ตของคุณ เพลงเป็นตัวเพลง ไม่ใช่ประกอบ
- พวกกราฟฟิกที่ขึ้นกับเพลง คือ กราฟฟิกประกอบ มันจะพลิก เพราะงั้นอะไรก็ตามที่เป็นของประกอบ ในหนังมันก็จะมีนักแสดงหลักกับนักแสดงประกอบ ไอ้พวกนักแสดงประกอบ ต่อไปอีกหน่อย ก็จะถูกแทนที่หมด
คุณโชคบอกว่า ของอะไรก็ตามที่เป็นของประกอบ ไม่เป็นคีย์ของตัว ไม่มี branding ไม่ได้ใช้อยู่ ของความเป็นตัวเองขึ้นมา มีโอกาสถูกแทนที่สูงมาก ผมก็ต้องเล่าอย่างนี้ก่อนนะครับ ว่ามันเข้ามาทำอะไรได้บ้าง
- คุณโชคเล่าประสบการณ์ว่า ใช้ AI แทนอะไรไปแล้วบ้าง หรือในงานที่เจอเห็นอะไรที่ถูกแทนไปแล้วบ้าง แล้วตัวเรามี Value อะไรอยู่ใน flow นั้น
เราต้องสร้าง AI ที่เป็นส่วนหนึ่งกับเรา และทำสิ่งนั้นให้เปล่งประกาย ไม่ให้ AI มาแทนที่ ด้วยการหารสนิยม หรือสร้าง Branding เป็นของตัวเราเอง สร้างตัวตน ต้องเป็นตัวตนที่ให้ value กับคนอื่น ให้ Convert มาเป็น Monetary value
ข้อสรุป:
AI เข้ามาแทนของประกอบได้เกือบทั้งหมด แต่คนที่มีรสนิยมเฉพาะตัว และรู้จักใช้ AI เป็น Partner จะรอดและโดดเด่นกว่าใครในสายอาชีพนั้นๆ จุดเริ่มต้นของการอยู่รอดในยุคนี้ คือ หา Unique ของตัวเองให้เจอ แล้วใช้ AI ขยายศักยภาพให้ไปไกลกว่าเดิม
Source:
สดจากงาน KBTG Techtopia 2025 เวที Communnity Circle