Google ปล่อยของ AI สุดโหด อลังการมากในงาน Google I/O 2025 เหมาะกับนักสร้างคอนเทนต์ที่ต้องกริ๊ดสนั่น แม้ว่าการสร้างคอนเทนต์เอง จะเหนื่อย หาข้อมูลก็ไม่ตรงใจ และทำงานหลายหน้าจอจนปวดหัว Google ก็เลยส่ง Veo 3 + Flow + Gemini Ultra และอื่น ๆ เข้ามาช่วย

รายการ AI ของ Google ที่มาเปิดตัว ใน Session Google Keynote 2025:

1. Google Beam (แทน Project Starline)

Google Beam แพลตฟอร์มวิดีโอ 3 มิติรุ่นใหม่จาก Google ที่พัฒนามาจากรากฐานของ Project Starline โดยใช้เทคโนโลยี AI เป็นหัวใจหลัก ในการสร้างประสบการณ์การสื่อสารผ่านวิดีโอให้สมจริงยิ่งขึ้น ด้วยการเปลี่ยนภาพ 2 มิติธรรมดาให้กลายเป็นภาพ 3 มิติ ที่มองเห็นได้จากทุกมุม โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริม เช่น แว่นตา ช่วยให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนได้นั่งพูดคุยกันต่อหน้า โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างการเชื่อมโยงระหว่างผู้คนอย่างลึกซึ้งและเป็นธรรมชาติ แม้อยู่ห่างกันคนละฟากโลก

  • แพลตฟอร์มวิดีโอ 3 มิติแบบเรียลไทม์ ใช้ 6 กล้องและ AI สร้างภาพ lightfield
  • ร่วมมือกับ HP เปิดตัวอุปกรณ์ภายในปีนี้
  • ให้ภาพ 3 มิติสมจริงจากทุกมุมมอง

2. Flow (เครื่องมือสร้างหนังด้วย AI)

  • สร้างคลิปและฉากภาพยนตร์แบบมืออาชีพด้วย prompt พื้นฐาน
  • ควบคุมกล้องได้ละเอียด สร้างภาพความละเอียดสูงถึง 1080p

3. Veo 3 (โมเดลสร้างวิดีโอขั้นเทพ)

  • รองรับการสร้างเสียงประกอบฉาก เช่น เสียงฝนตก หรือบทสนทนาของตัวละคร ทำให้หนังสั้น ๆ มีความสมจริงเหมือนทีมงานใหญ่
  • สร้างวิดีโอจากข้อความหรือภาพ เนียนเหมือนมืออาชีพ
  • เพิ่มเสียงพูด (Voice-over) และเอฟเฟกต์เสียงได้ในตัว
  • คุณภาพวิดีโอ HD สูงกว่าเดิม ใช้ทำคอนเทนต์โซเชียล/โฆษณาได้เลย

4. Google Meet + Speech Translation

  • ระบบแปลเสียงแบบเรียลไทม์ เลียนแบบโทนเสียงและน้ำเสียงของผู้พูด
  • เริ่มให้ใช้ในภาษาอังกฤษ-สเปนก่อน ขยายเพิ่มในอนาคต

5. Android XR + แว่นตาอัจฉริยะ

  • แพลตฟอร์มใหม่สำหรับอุปกรณ์ AR/MR/VR รองรับการแสดงผล 3D และติดตามตำแหน่ง สามารถแปลภาษาแบบเรียลไทม์ และแสดงข้อมูลผ่านเลนส์ได้
  • ร่วมมือกับ Samsung, HP, Gentle Monster และ Warby Parker

6. Gemini 2.5 Pro & Gemini Live

– Gemini 2.5 Pro มีฟีเจอร์ Deep Think วิเคราะห์เชิงลึกและแปลงภาพเป็น 3D พร้อมคำบรรยาย

7. Gemini Live

Gemini Live ใช้งานผ่านกล้องบน Android และ iOS ถามคำถามแบบเรียลไทม์ ตอบคำถามจากสิ่งที่เห็นผ่านกล้องได้ทุกอย่าง

8. Google Shopping + AR Try-On

– ฟีเจอร์ลองใส่เสื้อผ้าผ่านภาพถ่ายตนเองแบบเสมือนจริง

– แจ้งเตือนเมื่อสินค้าลดราคา และชำระเงินอัตโนมัติ

9. Google AI Ultra (แพ็กเกจระดับพรีเมียม)

– มี YouTube Premium + พื้นที่จัดเก็บ 30TB

– ใช้งาน AI ไม่จำกัด พร้อมเข้าถึงฟีเจอร์ล้ำ ๆ เช่น Deep Research, Veo 3, Gemini Live, Whisk, NotebookLM, Gemini ใน Chrome

10. Imagen 4 (โมเดลเจนภาพ)

  • สร้างภาพจากข้อความคมชัดระดับ 8K
  • อ่าน Prompt หลายภาษาได้แม่นยำ (รวมไทยด้วย)
  • ปรับรายละเอียดภาพให้ตรงความต้องการได้สูง

11. Lyria 2 (โมเดลสร้างเสียงดนตรี)

  • เสียงคมชัดระดับสตูดิโอ ใช้ฟรีผ่าน Vertex AI
  • แต่งเพลงจากข้อความ รองรับทุกแนว (ป็อป คลาสสิก ฯลฯ)
  • ปรับจังหวะ (BPM), เครื่องดนตรี และอารมณ์เพลงได้ละเอียด

AI Overviews ใน Google Search

– แสดงสรุปเนื้อหาด้วย Gemini ใช้งานแล้วกว่า 1.5 พันล้านราย/เดือน

– เปิดให้ใช้ในกว่า 200 ประเทศ รองรับภาษาไทย อารบิก จีน มาเลย์ อูรดู และอื่น ๆ

– ช่วยตอบคำถามซับซ้อน เปรียบเทียบสินค้า หรือหาตั๋วราคาถูกได้รวดเร็ว

.

ความสำเร็จของ AI จาก Google

– จำนวนการประมวลผลโทเคนเพิ่มจาก 9.7 ล้านล้าน → 480 ล้านล้านต่อเดือน

– จำนวนนักพัฒนาที่ใช้ Gemini เพิ่ม 5 เท่า

– แอป Gemini มีผู้ใช้งาน 400 ล้านคนต่อเดือน

ข้อสรุป:

Google เปลี่ยนบทบาทจาก Search Google มาเป็น แพลตฟอร์ม AI ครบวงจร โดยวาง Gemini เป็นศูนย์กลางและขยายระบบนิเวศไปยังทุกแพลตฟอร์ม เพื่อให้ผู้ใช้งานได้ประสบการณ์การทำงานที่ลื่นไหล ฉลาดขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Source: